ฉีดปลวกเองแบบละเอียด ประหยัดเป็น 10,000 ทำได้จริง!

ฉีดปลวกเอง

เมื่อเจอปัญหาปลวกบุกบ้าน หลายคนมักตกใจกับราคาค่าจ้างบริษัทฉีดปลวกที่หลักหมื่น วันนี้ขอมาแชร์วิธีฉีดปลวกเองแบบละเอียดทุกขั้นตอน ที่ใครๆ ก็ทำได้!

1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับปลวกและน้ำยากำจัดปลวก

ประเภทของปลวกที่พบในบ้านเรา

  • ปลวกใต้ดิน – ทำรังอยู่ใต้ดิน สร้างทางเดินดินขึ้นมาตามผนัง พบได้บ่อยที่สุด
  • ปลวกกระทบไม้ – อาศัยอยู่ในเนื้อไม้โดยตรง ไม่ต้องเชื่อมต่อกับพื้นดิน
  • ปลวกแห้ง – คล้ายปลวกกระทบไม้ แต่ชอบไม้แห้ง มักพบในไม้เก่า

กลไกการออกฤทธิ์ของน้ำยากำจัดปลวก

น้ำยากำจัดปลวกแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ตามกลไกการทำงาน:

1. กลุ่มสาร Non-repellent (ไม่ขับไล่ปลวก)

สารกลุ่มนี้จะไม่ถูกตรวจจับโดยปลวก ทำให้ปลวกเดินผ่านบริเวณที่ฉีดพ่นโดยไม่รู้ตัว เมื่อสัมผัสสารเคมี ปลวกจะนำสารติดตัวกลับไปที่รัง และแพร่กระจายไปยังปลวกตัวอื่นๆ ทำให้เกิดการตายต่อเนื่องเป็นทอดๆ (Domino Effect) จนกระทั่งตายยกรัง

สารออกฤทธิ์ในกลุ่มนี้:

    • ฟิโพรนิล (Fipronil) – มีประสิทธิภาพสูง ออกฤทธิ์นาน 3-5 ปี แต่มีความเป็นพิษค่อนข้างสูงต่อสัตว์น้ำ
ฟิโพรนิล5% ยากำจัดปลวก

ฟิโพรนิล5% ยากำจัดปลวก

ติดเชื้อตายยกรัง มี อย. ปลอดภัยสูง สำหรับใช้ในบ้าน

590.00 บาท

  • อิมิดาโคลพริด (Imidacloprid) – ประสิทธิภาพดี ปลอดภัยกว่าฟิโพรนิล ออกฤทธิ์นาน 3-5 ปี
น้ำยากำจัดปลวก อิมิดาคลอพริด

น้ำยากำจัดปลวก อิมิดาคลอพริด 5%SC

Imidacloprid 5% SC ประสิทธิภาพสูง

800.00 บาท

2. กลุ่มสาร Repellent (ขับไล่ปลวก)

สารกลุ่มนี้ปลวกสามารถตรวจจับได้ และจะหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีสารเคมี ซึ่งอาจทำให้ปลวกเพียงแค่เปลี่ยนเส้นทางไปเข้าทำลายส่วนอื่นของบ้านแทน

สารออกฤทธิ์ในกลุ่มนี้:

    • ไบเฟนทริน (Bifenthrin) – ออกฤทธิ์เร็ว ราคาไม่แพง แต่ระยะเวลาป้องกันอาจสั้นกว่า
โจเนอร์-ไบเฟนทริน

โจเนอร์-ไบเฟนทริน

ขนาด 1 ลิตร กำจัดแมลงประสิทธิภาพสูง

350.00 บาท

  • ไซเปอร์เมทริน (Cypermethrin) – คล้ายไบเฟนทริน หาซื้อง่าย
ไซเปอร์ 10% ไลน์

ไซเปอร์ 10% ไลน์ – CYPER 10% LINE

Cypermethrin – SC – กำจัดปลวกประสิทธิภาพสูง

1,150.00 บาท

2. การเลือกน้ำยากำจัดปลวกที่เหมาะสม

กลุ่มฟิโพรนิล (Fipronil) – เน้นประสิทธิภาพตายยกรัง

1. อาเจนด้า 25 EC (Agenda)

อาเจนด้า 25 อีซี

อาเจนด้า 25 อีซี Agenda EC 25 Bayer

ผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดปลวก น้ำยากำจัดปลวก ของแท้ 100%

1,750.00 บาท
  • สารออกฤทธิ์: Fipronil 2.5% w/v EC
  • อัตราผสม: 1:100 (1 ลิตร ต่อน้ำ 100 ลิตร)
  • ปริมาณใช้: 5 ลิตรต่อตารางเมตร (ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 20 ตร.ม. ต่อลิตร)
  • จุดเด่น: แบรนด์มีชื่อเสียง ประสิทธิภาพสูง ป้องกันได้นาน 3-5 ปี
  • ข้อควรระวัง: ราคาสูง มีความเป็นพิษต่อปลา
  • ราคา: 1,569 – 2,890 บาทต่อลิตร
  • เลข อย.: วอส. 456/2549

2. ฟิปฟอร์ซ 5 SC (Fipforce)

ฟิบฟอร์ซ 2.5 อีซี

ฟิบฟอร์ซ 2.5 อีซี Fipforce 2.5 EC

ยากำจัดปลวกประสิทธิภาพสูง

1,470.00 – 1,500.00 บาท
  • สารออกฤทธิ์: Fipronil 5% w/v SC
  • อัตราผสม: 1:200 (1 ลิตร ต่อน้ำ 200 ลิตร)
  • ปริมาณใช้: 5 ลิตรต่อตารางเมตร (ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 40 ตร.ม. ต่อลิตร)
  • จุดเด่น: ความเข้มข้นสูง สูตรน้ำ (SC) ไม่มีกลิ่นฉุน ราคาไม่แพงมาก
  • ข้อควรระวัง: มีความเป็นพิษต่อปลา ระคายเคืองผิวหนัง/ดวงตาได้
  • ราคา: 909 – 959 บาทต่อลิตร
  • เลข อย.: วอส. 1145/2554

3. แอสเซนด์/อธีน่า SC (Ascend/Athena)

เอธีนา 5% SC

เอธีนา 5% SC ยากำจัดปลวก

ฟิโปรนิล fipronil ตายต่อเนื่อง ประสิทธิภาพสูง

720.00 บาท
  • สารออกฤทธิ์: Fipronil 5% w/v SC
  • อัตราผสม: 1:200 (1 ลิตร ต่อน้ำ 200 ลิตร)
  • ปริมาณใช้: เหมือน Fipforce
  • จุดเด่น: ราคาประหยัด ความเข้มข้นเท่า Fipforce
  • ข้อควรระวัง: เหมือน Fipforce
  • ราคา: 590 – 830 บาทต่อลิตร
  • เลข อย.: อธีน่า: วอส. 492/2556

กลุ่มอิมิดาโคลพริด (Imidacloprid) – เน้นความปลอดภัยสูง

1. พรีมิส SC200 (Premise)

    พรีมิส เอสซี 200

    พรีมิส เอสซี 200 Premise SC

    ผลิตใหม่ Bayer น้ำยากำจัดปลวก ของแท้ 100%

    1,150.00 บาท
  • สารออกฤทธิ์: Imidacloprid 20% w/v SC
  • อัตราผสม: 250 มล. ต่อน้ำ 100 ลิตร
  • ปริมาณใช้: 5 ลิตรต่อตารางเมตร (ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 20 ตร.ม. ต่อขวด)
  • จุดเด่น: ไม่มีกลิ่น ปลอดภัยสูงต่อคนและสัตว์เลี้ยง ได้รับฉลากเขียวในสิงคโปร์
  • ข้อควรระวัง: ราคาสูงมาก
  • ราคา: 1,860 – 2,150 บาทต่อขวด 250 มล. (ราคาต่อลิตรประมาณ 7,440 – 8,600 บาท)
  • เลข อย.: วอส. 889/2555

2. โปรธอร์ 200 SC (Prothor)

    โปรธอร์ 200 SC

    น้ำยากำจัดปลวก โปรธอร์ 200 SC

    ปลวกตายยกรัง PROTHOR Made in USA มี อย. ขนาด 250 ml.

    645.00 บาท
  • สารออกฤทธิ์: Imidacloprid 20% w/v SC
  • อัตราผสม: 250 มล. ต่อน้ำ 100-200 ลิตร
  • ปริมาณใช้: 5 ลิตรต่อตารางเมตร
  • จุดเด่น: คุณสมบัติคล้าย Premise แต่ราคาถูกกว่ามาก ไม่มีกลิ่น ปลอดภัยสูง
  • ข้อควรระวัง: เหมือนสาร Imidacloprid ทั่วไป
  • ราคา: 649 – 750 บาทต่อขวด 250 มล. (ราคาต่อลิตรประมาณ 2,596 – 3,000 บาท)
  • เลข อย.: วอส. 314/2553

กลุ่มไบเฟนทริน/ไซเปอร์เมทริน – เน้นราคาประหยัด

1. เชนไดร้ท์ สเตดฟาส 30SC

    เชนไดร้ท์ สเตดฟาส 30 เอสซี

    Chaindrite เชนไดร้ท์ สเตดฟาส 30 เอสซี

    น้ำยากำจัดปลวกประสิทธิภาพสูง

    899.00 บาท (1L) / 439.00 บาท (500ml)
  • สารออกฤทธิ์: Bifenthrin 3.0% w/v SC
  • อัตราผสม: 1:60 (1 ลิตร ต่อน้ำ 60 ลิตร)
  • ปริมาณใช้: 5-7 ลิตรต่อตารางเมตร
  • จุดเด่น: ไม่มีกลิ่น หาซื้อง่าย มีขายทั่วไป แบรนด์เป็นที่รู้จัก
  • ข้อควรระวัง: อาจมีคุณสมบัติขับไล่ปลวก ประสิทธิภาพตายยกรังอาจด้อยกว่ากลุ่ม Non-repellent
  • ราคา: 800 – 958 บาทต่อลิตร
  • เลข อย.: มีขายทั่วไปในร้านค้าชั้นนำ

2. ตราเครื่องบิน (ชนิดน้ำ)

    ยากำจัดปลวกสูตรน้ำ ตราเครื่องบิน

    ยากำจัดปลวกสูตรน้ำ ตราเครื่องบิน

    ของแท้ มีประสิทธิภาพสูง

    1,450.00 บาท (1500cc) / 195.00 บาท (227 กรัม)
  • สารออกฤทธิ์: Cypermethrin (ความเข้มข้นไม่แน่ชัด)
  • อัตราผสม: 1:100 (1 ลิตร ต่อน้ำ 100 ลิตร)
  • ปริมาณใช้: 5 ลิตรต่อตารางเมตร
  • จุดเด่น: แบรนด์เก่าแก่เป็นที่รู้จัก ราคาไม่แพง
  • ข้อควรระวัง: ความเป็นพิษต่อปลา ประสิทธิภาพตายยกรังอาจไม่เท่ากลุ่ม Non-repellent
  • ราคา: ประมาณ 990 บาทต่อลิตร

3. รายการอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการฉีดปลวกเอง

อุปกรณ์หลัก

  1. น้ำยากำจัดปลวกตามที่เลือก – พิจารณาตามงบประมาณและความต้องการ
  2. ถังพ่นยา – มีให้เลือกหลายแบบ:
    • แบบโยกมือ (600-1,000 บาท) – ราคาประหยัด เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก
    • แบบแบตเตอรี่ (1,200-2,500 บาท) – สะดวกกว่า เหมาะกับพื้นที่ขนาดกลาง
    • ถังสแตนเลส ถังพ่นยา

      ถังสแตนเลส ถังพ่นยา

      สำหรับฉีดแมลง ปลวก มด แมลงสาบ ขนาด 6 ลิตร

      2,790.00 บาท
      ชุดปั๊มฉีดปลวก/พ่นยา

      ชุดปั๊มฉีดปลวก/พ่นยา 12V

      สำหรับฉีดพ่นด้วยตัวเอง ใช้งานง่าย ประสิทธิภาพสูง

      949.00 บาท
      แบบเครื่องยนต์ (3,000+ บาท) – แรงดันสูง เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่
  3. ถังผสมน้ำยาขนาดใหญ่ – ถังพลาสติกสะอาด ขนาด 20-60 ลิตร
  4. เครื่องมือวัดปริมาตร – ถ้วยตวง บีกเกอร์ หรือกระบอกตวง สำหรับตวงน้ำยาให้ได้อัตราส่วนที่ถูกต้อง
  5. ไม้พาย/ที่คนน้ำยา – สำหรับคนให้น้ำยาผสมกับน้ำอย่างทั่วถึง

อุปกรณ์สำหรับการอัดน้ำยาลงท่อ/ดิน

  1. สว่านไฟฟ้า – สำหรับเจาะพื้นคอนกรีต
  2. ดอกสว่านคอนกรีต – ขนาด 1/2 นิ้ว หรือ 3/8 นิ้ว
  3. ท่อพีวีซีขนาดเล็ก – สำหรับทำเป็นท่อนำน้ำยาลงดิน (ถ้าต้องการ)
  4. ปูนซีเมนต์ผสมเสร็จ – สำหรับอุดรูหลังอัดน้ำยาเสร็จ
  5. กรวย – สำหรับเทน้ำยาลงรู (ถ้าไม่มีหัวฉีดพิเศษ)

อุปกรณ์ป้องกันอันตราย (PPE) – สำคัญมาก!

  1. ถุงมือยางหนา – ป้องกันสารเคมีสัมผัสผิวหนัง
  2. แว่นตานิรภัย – ป้องกันสารเคมีกระเด็นเข้าตา
  3. หน้ากากป้องกันสารเคมี – ป้องกันการสูดดมไอระเหย
  4. เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว – ปกปิดผิวหนังให้มิดชิด
  5. รองเท้าบู๊ท – ป้องกันสารเคมีหกรดเท้า

อุปกรณ์เสริม

  1. เทปวัดระยะ – สำหรับวัดระยะห่างในการเจาะรู
  2. ชอล์กหรือสีสเปรย์ – สำหรับทำเครื่องหมายจุดที่จะเจาะ
  3. ค้อน – สำหรับงานทั่วไป
  4. ถังน้ำสะอาด – สำหรับล้างมือหรืออุปกรณ์ในกรณีฉุกเฉิน
  5. สบู่ล้างมือ – สำหรับล้างมือหลังใช้งานสารเคมี

4. ขั้นตอนการฉีดปลวกด้วยตัวเองอย่างละเอียด

ขั้นตอนการเตรียมการ

  1. สำรวจพื้นที่และประเมินความเสียหาย

    • ตรวจหาร่องรอยปลวก ทางเดินดิน จุดที่ไม้ถูกทำลาย
    • ประเมินขนาดพื้นที่ที่ต้องฉีด เพื่อคำนวณปริมาณน้ำยาที่ต้องใช้
    • ถ่ายรูปจุดที่พบปลวกไว้เพื่อเปรียบเทียบหลังการรักษา
  2. เตรียมพื้นที่

    • ย้ายเฟอร์นิเจอร์ออกจากบริเวณที่จะฉีด
    • เก็บของใช้ส่วนตัว อาหาร และภาชนะใส่อาหารให้พ้นจากบริเวณที่จะฉีด
    • ปิดประตู หน้าต่าง เพื่อป้องกันลมพัดละอองน้ำยา
    • ปิดเครื่องปรับอากาศและพัดลมขณะฉีดพ่น
  3. คำนวณปริมาณน้ำยาที่ต้องใช้

    • วัดพื้นที่ที่ต้องการฉีด (ตารางเมตร)
    • คำนวณปริมาณน้ำยาที่ต้องผสม โดยอ้างอิงจากอัตราส่วนบนฉลาก
    • ตัวอย่าง: พื้นที่ 20 ตร.ม. × 5 ลิตรต่อตร.ม. = ต้องการน้ำยาที่ผสมแล้ว 100 ลิตร
  4. ผสมน้ำยาตามอัตราส่วน

    • เติมน้ำลงในถังผสมประมาณครึ่งถัง
    • ตวงน้ำยากำจัดปลวกตามอัตราส่วนที่กำหนด
    • เทน้ำยาลงในถังผสมอย่างช้าๆ
    • คนให้เข้ากันอย่างทั่วถึง
    • เติมน้ำให้ได้ปริมาตรตามที่คำนวณไว้
    • คนอีกครั้งให้เข้ากันดี
  5. สวมอุปกรณ์ป้องกันให้ครบถ้วน

    • สวมถุงมือยาง แว่นตานิรภัย และหน้ากาก
    • สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และรองเท้าบู๊ท
    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ป้องกันทุกชิ้นอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยรั่ว

ขั้นตอนการฉีดพ่นบริเวณที่พบปลวก

  1. การฉีดพ่นทางเดินดินของปลวก

    • ทำลายทางเดินดินด้วยมือหรือเครื่องมือ เพื่อเปิดให้เห็นปลวกภายใน
    • ฉีดพ่นน้ำยาโดยตรงลงบนทางเดินดินและปลวกที่พบ
    • ฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณที่พบทางเดินดิน รวมถึงบริเวณโดยรอบ
  2. การฉีดพ่นบริเวณไม้ที่ถูกทำลาย

    • ฉีดพ่นน้ำยาให้ทั่วบริเวณไม้ที่มีร่องรอยการทำลายจากปลวก
    • ฉีดให้น้ำยาซึมเข้าไปในเนื้อไม้ โดยเฉพาะบริเวณที่มีรูหรือโพรง
    • ฉีดซ้ำ 2-3 รอบ โดยรอให้น้ำยาซึมเข้าไปก่อนฉีดรอบต่อไป
  3. การฉีดพ่นบริเวณวงกบประตู หน้าต่าง

    • ฉีดพ่นน้ำยาตามแนวรอยต่อระหว่างวงกบกับผนัง
    • ฉีดให้ทั่วทั้งด้านในและด้านนอกของวงกบ
    • เน้นบริเวณที่มีความชื้นหรือมีร่องรอยปลวก
  4. การฉีดพ่นบริเวณฐานรากบ้าน

    • ฉีดพ่นน้ำยาบริเวณฐานรากบ้านโดยรอบ
    • ฉีดให้น้ำยาซึมลงดินบริเวณรอบๆ ฐานราก
    • ควรฉีดให้ห่างจากฐานประมาณ 30-45 ซม. และสูงจากพื้น 30-45 ซม.
  5. การฉีดพ่นบริเวณรอยแตกของคอนกรีต

    • ฉีดน้ำยาลงในรอยแตกของพื้นหรือผนังคอนกรีต
    • ใช้หัวฉีดแบบพุ่งตรงเพื่อให้น้ำยาเข้าไปในรอยแตกได้ลึก
    • ฉีดซ้ำหลายๆ ครั้ง เพื่อให้น้ำยาซึมลงไปมากที่สุด

ขั้นตอนการอัดน้ำยาลงดิน/ท่อ

  1. การเจาะรูเพื่ออัดน้ำยา

    • กำหนดจุดเจาะรอบบ้าน โดยเว้นระยะห่างประมาณ 30 ซม.
    • ใช้สว่านเจาะรูลงในพื้นคอนกรีตหรือดิน ลึกประมาณ 30-45 ซม.
    • เจาะให้เอียงลงเล็กน้อย เพื่อให้น้ำยาไหลลงได้ง่าย
    • ทำความสะอาดรูที่เจาะ โดยดูดฝุ่นออกให้หมด
  2. การอัดน้ำยาลงรู

    • ใช้หัวฉีดแบบพิเศษหรือกรวยเพื่อนำน้ำยาลงรู
    • อัดน้ำยาลงไปในแต่ละรูประมาณ 2-5 ลิตร (ขึ้นอยู่กับขนาดรู)
    • อัดน้ำยาช้าๆ เพื่อให้ซึมลงดินได้ดี ไม่ล้นออกมา
    • รอให้น้ำยาซึมหมดก่อนอัดเพิ่ม หากจำเป็น
  3. การอุดรูหลังอัดน้ำยา

    • เมื่ออัดน้ำยาเสร็จและน้ำยาซึมลงดินหมดแล้ว
    • ผสมปูนซีเมนต์ให้ข้น
    • อุดรูด้วยปูนซีเมนต์ให้เรียบเสมอพื้น
    • รอให้ปูนแห้งสนิท (ประมาณ 24 ชั่วโมง)
  4. การอัดน้ำยาลงท่อป้องกันปลวก (ถ้ามี)

    • ตรวจสอบระบบท่อป้องกันปลวกรอบบ้าน
    • เปิดฝาท่อและอัดน้ำยาลงไป
    • ปิดฝาท่อให้แน่นหลังอัดน้ำยาเสร็จ

ขั้นตอนหลังการฉีดปลวก

  1. การทำความสะอาดอุปกรณ์

    • ล้างถังพ่นยาและอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง
    • ทิ้งน้ำล้างในที่ที่ปลอดภัย ไม่ปนเปื้อนแหล่งน้ำ
    • เก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อยในที่แห้งและปลอดภัย
  2. การดูแลความปลอดภัย

    • ถอดอุปกรณ์ป้องกันอย่างระมัดระวัง ไม่ให้สัมผัสสารเคมี
    • ล้างมือและส่วนต่างๆ ของร่างกายที่อาจสัมผัสสารเคมีด้วยสบู่และน้ำสะอาด
    • ซักเสื้อผ้าที่ใส่ขณะฉีดแยกจากเสื้อผ้าอื่น
  3. การเก็บรักษาน้ำยาที่เหลือ

    • เก็บน้ำยากำจัดปลวกในภาชนะเดิมที่ปิดสนิท
    • เก็บในที่แห้ง เย็น และพ้นมือเด็ก
    • ไม่เก็บใกล้อาหาร เครื่องดื่ม หรืออาหารสัตว์
  4. การกลับเข้าใช้พื้นที่

    • รอให้น้ำยาแห้งสนิท (อย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง)
    • เปิดประตู หน้าต่างเพื่อระบายอากาศให้ดีก่อนนำเด็กและสัตว์เลี้ยงกลับเข้ามา
    • ทำความสะอาดพื้นผิวที่อาจสัมผัสอาหาร เช่น เคาน์เตอร์ครัว โต๊ะอาหาร
    • เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวที่ฉีดพ่นด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ (ถ้าเป็นพื้นที่ภายในบ้าน)
  1. การติดตามผล

    • ตรวจสอบจุดที่พบปลวกหลังฉีดไปแล้ว 1 สัปดาห์
    • สังเกตว่ายังมีปลวกปรากฏหรือมีทางเดินดินใหม่หรือไม่
    • บันทึกผลการตรวจสอบและถ่ายรูปเปรียบเทียบกับก่อนฉีด
    • วางแผนการตรวจสอบเป็นระยะทุก 3-6 เดือน

5. เทคนิคพิเศษสำหรับปัญหาปลวกเฉพาะจุด

การจัดการฉีดปลวกเองในเฟอร์นิเจอร์

  1. การฉีดพ่นเฟอร์นิเจอร์ไม้

    • นำเฟอร์นิเจอร์ออกมาในที่โล่ง
    • ฉีดพ่นน้ำยาให้ทั่วทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะรอยต่อและรูที่ปลวกเจาะ
    • ใช้หัวฉีดแบบพุ่งตรงเพื่อให้น้ำยาเข้าไปในรูลึกๆ
    • รอให้แห้งสนิทก่อนนำกลับเข้าบ้าน (อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง)
  2. การฉีดเฉพาะจุดสำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานอยู่

    • ใช้เข็มฉีดยาหรือหลอดฉีดขนาดเล็กดูดน้ำยากำจัดปลวก
    • ฉีดเข้าไปในรูที่ปลวกเจาะโดยตรง
    • อุดรูด้วยขี้ผึ้งหรือดินน้ำมันหลังฉีดเสร็จ
    • เช็ดน้ำยาส่วนเกินที่อาจหกด้านนอกทันที

การจัดการฉีดปลวกเองในผนังโพรง

  1. การเจาะผนังเพื่อฉีดน้ำยา

    • ระบุตำแหน่งที่มีปลวกในผนังโพรง (สังเกตจากเสียงหรือรอยทางเดินปลวก)
    • เจาะรูขนาดเล็ก (3-6 มม.) เป็นแนวตามผนัง ห่างกันประมาณ 30-40 ซม.
    • ใช้หัวฉีดแบบพิเศษหรือหลอดฉีดยาฉีดน้ำยาเข้าไปในผนัง
    • อุดรูด้วยดินสอพองหรือปูนซ่อมผนังหลังฉีดเสร็จ
  2. การใช้ฟอกกิ้งหรือละอองฝอย

    • ใช้เครื่องพ่นละอองฝอย (fogger) หากมี
    • ผสมน้ำยากำจัดปลวกตามอัตราส่วนสำหรับการพ่นละอองฝอย
    • พ่นเข้าไปในช่องว่างของผนังผ่านรูที่เจาะไว้
    • ปิดรูหลังการพ่นเสร็จสิ้น

การจัดการฉีดปลวกเองในหลังคาและฝ้าเพดาน

  1. การเข้าถึงหลังคาและฝ้าเพดาน

    • ใช้บันไดที่มั่นคงเพื่อเข้าถึงช่องฝ้าเพดาน
    • สวมอุปกรณ์ป้องกันให้มิดชิด รวมถึงหมวกนิรภัย
    • นำไฟฉายไปด้วยเพื่อตรวจสอบในที่มืด
  2. การฉีดพ่นในช่องหลังคา

    • ฉีดพ่นน้ำยาให้ทั่วบริเวณที่พบรอยปลวก
    • เน้นบริเวณจุดต่อไม้ คาน และโครงสร้างหลังคา
    • ระวังไม่ให้น้ำยาหยดลงมาด้านล่าง
    • ฉีดพ่นในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ให้เปียกชุ่มจนเกินไป

6. วิธีการป้องกันปลวกในระยะยาว

การสร้างแนวป้องกันรอบบ้าน

  1. การฉีดพ่นรอบบ้านเป็นประจำ

    • ฉีดพ่นน้ำยากำจัดปลวกรอบบ้านทุก 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคมี)
    • เน้นบริเวณฐานราก รอยต่อระหว่างพื้นกับผนัง และจุดที่มีความชื้น
    • บันทึกวันที่ฉีดไว้เพื่อเตือนความจำในการฉีดครั้งต่อไป
  2. การติดตั้งระบบท่อป้องกันปลวก

    • พิจารณาติดตั้งระบบท่อป้องกันปลวกรอบบ้าน
    • ระบบนี้ช่วยให้สามารถเติมน้ำยาได้ง่ายในอนาคต โดยไม่ต้องเจาะพื้นใหม่
    • ติดตั้งท่อห่างกันประมาณ 1-1.5 เมตร รอบบริเวณบ้าน
    • เติมน้ำยาลงท่อทุก 1-2 ปี

การลดความเสี่ยงจากปลวก

  1. การจัดการความชื้น

    • ซ่อมท่อน้ำที่รั่วซึมทันที
    • ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังรอบบ้าน
    • ติดตั้งระบบระบายน้ำที่ดีรอบบ้าน
    • รักษาความแห้งของบริเวณใต้บ้าน (ถ้าเป็นบ้านยกพื้น)
  2. การจัดการวัสดุที่ทำจากไม้

    • เก็บกองไม้ให้ห่างจากตัวบ้าน อย่างน้อย 20 เมตร
    • ยกพื้นกองไม้ให้สูงจากพื้นดิน
    • กำจัดตอไม้และรากไม้เก่าออกจากบริเวณบ้าน
    • รักษาระยะห่างระหว่างพื้นดินกับโครงสร้างไม้ของบ้าน
  3. การตรวจสอบเป็นประจำ

    • ตรวจสอบรอบบ้านเพื่อหาร่องรอยปลวกทุก 3-6 เดือน
    • สังเกตทางเดินดิน รูเล็กๆ บนไม้ หรือปีกปลวกที่ร่วงหล่น
    • ตรวจบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ใต้อ่างล้างจาน
    • บันทึกผลการตรวจสอบทุกครั้ง

7. การแก้ปัญหาที่อาจพบและวิธีจัดการ

ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข

  1. ปลวกยังปรากฏหลังการฉีด

    • สาเหตุ: อาจฉีดไม่ทั่วถึง หรือไม่ถึงรังปลวก
    • วิธีแก้: ฉีดซ้ำในบริเวณที่ยังพบปลวก และขยายพื้นที่การฉีดให้กว้างขึ้น
    • พิจารณาเปลี่ยนไปใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นหรือต่างชนิด
  2. น้ำยามีกลิ่นรบกวน

    • สาเหตุ: สารเคมีบางชนิดมีกลิ่นแรง โดยเฉพาะสูตร EC
    • วิธีแก้: เปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศ ใช้พัดลมช่วย
    • พิจารณาเปลี่ยนไปใช้น้ำยาสูตรน้ำ (SC) ที่มีกลิ่นน้อยกว่า เช่น Imidacloprid
  3. รูที่เจาะเพื่ออัดน้ำยาเป็นปัญหา

    • สาเหตุ: รูอาจใหญ่เกินไป หรืออุดไม่ดี
    • วิธีแก้: ใช้ปูนซีเมนต์คุณภาพดีในการอุด หรือพิจารณาใช้ซิลิโคนช่วยซีล
    • หากพื้นเป็นกระเบื้อง อาจต้องใช้กาวซ่อมกระเบื้องหรือวัสดุที่มีสีใกล้เคียง
  4. น้ำยาไม่ซึมลงดิน

    • สาเหตุ: ดินอาจแน่นเกินไป หรือมีความชื้นสูง
    • วิธีแก้: เจาะรูให้ลึกขึ้น หรือเจาะรูเพิ่มเติมให้ถี่ขึ้น
    • อัดน้ำยาช้าลง ให้เวลาซึมลงดิน หรือพิจารณาเจือจางน้ำยาเพิ่มเล็กน้อย

การจัดการเมื่อสัมผัสสารเคมีโดยไม่ตั้งใจ

  1. สารเคมีสัมผัสผิวหนัง

    • ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนสารเคมีออกทันที
    • ล้างบริเวณที่สัมผัสด้วยน้ำสะอาดและสบู่เป็นเวลาอย่างน้อย 15-20 นาที
    • หากมีอาการระคายเคือง แดง หรือแสบร้อนมาก ควรพบแพทย์
  2. สารเคมีเข้าตา

    • ล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันทีอย่างน้อย 15-20 นาที
    • เปิดเปลือกตาให้กว้างขณะล้าง เพื่อให้น้ำชะล้างได้ทั่วถึง
    • ถอดคอนแทคเลนส์ออกก่อนล้างตา (ถ้าสวมใส่อยู่)
    • รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
  3. การสูดดมสารเคมี

    • เคลื่อนย้ายผู้ได้รับผลกระทบไปยังบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์
    • หากหายใจลำบาก ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
    • หากมีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ให้นอนพัก และดื่มน้ำมากๆ
  4. การกลืนกินสารเคมี

    • ห้ามทำให้อาเจียนโดยเด็ดขาด
    • รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที พร้อมนำภาชนะบรรจุหรือฉลากของสารเคมีไปด้วย
    • โทรแจ้งศูนย์พิษวิทยา 1367 เพื่อขอคำแนะนำเบื้องต้น

8. คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

คำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพ

Q: การฉีดปลวกเองให้ผลดีเทียบเท่าจ้างบริษัทหรือไม่? A: หากทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้องและใช้น้ำยาคุณภาพดี ผลลัพธ์สามารถใกล้เคียงกับการจ้างบริษัท แต่ต้องมีความพิถีพิถันและใส่ใจในรายละเอียด ข้อได้เปรียบของบริษัทคือมีประสบการณ์และอุปกรณ์เฉพาะทางมากกว่า

Q: ฉีดครั้งเดียวอยู่ได้นานแค่ไหน? A: ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคมี:

  • กลุ่ม Fipronil/Imidacloprid: ป้องกันได้นาน 3-5 ปี
  • กลุ่ม Bifenthrin/Cypermethrin: ป้องกันได้นาน 1-3 ปี ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ความชื้น และการรบกวนพื้นที่หลังการฉีดด้วย

Q: ต้องฉีดปริมาณเท่าไรจึงจะได้ผล? A: โดยทั่วไปใช้น้ำยาที่ผสมแล้ว 5 ลิตรต่อตารางเมตรสำหรับการราดพื้น และ 2-5 ลิตรต่อรูสำหรับการอัดลงดิน ทั้งนี้ควรอ้างอิงจากคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์

คำถามเกี่ยวกับความปลอดภัย

Q: น้ำยากำจัดปลวกอันตรายต่อเด็กและสัตว์เลี้ยงหรือไม่? A: น้ำยากำจัดปลวกทุกชนิดมีความเป็นพิษในระดับหนึ่ง แต่เมื่อแห้งแล้วความเสี่ยงจะลดลงมาก กลุ่ม Imidacloprid มักปลอดภัยกว่ากลุ่มอื่นสำหรับบ้านที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยง ควรกันเด็กและสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่ขณะฉีดและอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงหลังฉีด

Q: สามารถฉีดในห้องนอนหรือครัวได้หรือไม่? A: ได้ แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรฉีดเฉพาะจุดที่จำเป็น ระบายอากาศให้ดี และรอให้แห้งสนิทก่อนใช้งานพื้นที่ ในครัวควรปกปิดอุปกรณ์เครื่องครัว ภาชนะ และพื้นผิวที่สัมผัสอาหารให้มิดชิด

Q: จำเป็นต้องย้ายออกจากบ้านขณะฉีดปลวกหรือไม่? A: โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องย้ายออกทั้งหมด แต่ควรอยู่ห่างจากบริเวณที่กำลังฉีด และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ห้องที่ฉีดไปแล้วเป็นเวลา 4-6 ชั่วโมง หรือจนกว่าน้ำยาจะแห้งสนิท

คำถามเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์

Q: ตัดสินใจไม่ถูก เลือกยี่ห้อไหนดี? A: พิจารณาตามความต้องการและงบประมาณ:

  • ถ้าเน้นประสิทธิภาพและงบไม่จำกัด: อาเจนด้า หรือ พรีมิส
  • ถ้าเน้นคุ้มค่าและประสิทธิภาพดี: ฟิปฟอร์ซ หรือ โปรธอร์
  • ถ้างบน้อยแต่อยากได้ของดี: แอสเซนด์/อธีน่า
  • ถ้าต้องการความปลอดภัยสูงสุด: โปรธอร์ หรือ พรีมิส
  • ถ้าต้องการหาซื้อง่ายและราคาประหยัด: เชนไดร้ท์ สเตดฟาส หรือ ตราเครื่องบิน

Q: ซื้อน้ำยากำจัดปลวกได้ที่ไหน? A: สามารถซื้อได้ที่:

  • ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เช่น HomePro, Thai Watsadu
  • ร้านขายยาฆ่าแมลงและอุปกรณ์การเกษตร
  • ช้อปออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada
  • ตัวแทนจำหน่ายโดยตรงของแต่ละแบรนด์

Q: สูตรน้ำ (SC) กับสูตรน้ำมัน (EC) แบบไหนดีกว่ากัน? A: สูตรน้ำ (SC) มักมีกลิ่นน้อยกว่า เหมาะสำหรับใช้ภายในบ้าน ส่วนสูตรน้ำมัน (EC) อาจมีการยึดเกาะพื้นผิวดีกว่าในบางกรณี แต่มีกลิ่นแรงกว่า โดยทั่วไปสูตรน้ำ (SC) เป็นที่นิยมมากกว่าสำหรับการใช้งานทั่วไป

9. สรุป: ประหยัดเงินและได้ผลดีด้วยการฉีดปลวกเอง

การฉีดปลวกเองเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยอาจประหยัดได้ถึง 60-80% เมื่อเทียบกับการจ้างบริษัท หากคุณมีความพร้อมในด้านเวลา ความอดทน และความใส่ใจในรายละเอียด

สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัย ทั้งระหว่างการฉีดและหลังการฉีด เลือกใช้น้ำยาที่เหมาะกับสภาพปัญหาและสภาพแวดล้อมของบ้าน สวมอุปกรณ์ป้องกันให้ครบถ้วน และปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด

การฉีดปลวกด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง อุปกรณ์ที่เหมาะสม และความพิถีพิถันในการทำงาน หากทำตามขั้นตอนที่แนะนำอย่างครบถ้วน คุณจะสามารถกำจัดปลวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดเงิน และปกป้องบ้านของคุณจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว

อย่าลืมว่า การป้องกันดีกว่าการแก้ไข การตรวจสอบบ้านอย่างสม่ำเสมอ การจัดการความชื้น และการฉีดปลวกเป็นประจำตามกำหนดเวลา จะช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยจากปลวกได้อย่างยั่งยืน

ชมสินค้าเพิ่มเติม : กดที่นี่