10 รุ่นมือถือยอดนิยม 2025 มาดูกันรุ่นไหน สุดคุ้มค่า คุ้มราคา
ตลาดมือถือยอดนิยมในปี 2025 ยังคงคึกคักและเต็มไปด้วยการแข่งขันที่เข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เคยจำกัดอยู่เฉพาะในรุ่นเรือธง เริ่มแพร่หลายลงมาสู่สมาร์ทโฟนระดับกลางและระดับเริ่มต้นมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่หลากหลายและน่าสนใจกว่าเดิม บทความนี้จะเจาะลึกถึง 10 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่โดดเด่นในด้านความคุ้มค่าที่สุดในประเทศไทยสำหรับปี 2025 เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์การใช้งานและงบประมาณของแต่ละบุคคล
สารบัญ
10 สมาร์ทโฟนยอดนิยมที่คุ้มค่าที่สุดในปี 2025
เลือกสมาร์ทโฟนที่ใช่สำหรับคุณ ด้วยตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดในทุกระดับราคา
POCO F7 Pro
Samsung Galaxy A56 5G
realme 14 Pro 5G
Redmi Note 14 Pro 5G
vivo V50
Samsung Galaxy A26 5G
POCO X7 Pro
iPhone 15
OPPO A5 Pro 5G
Samsung Galaxy A16 5G
แนวโน้มเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนปี 2025
ปี 2025 เป็นปีที่เทคโนโลยีสมาร์ทโฟนหลายด้านได้พัฒนาจนเข้าสู่ช่วงที่สมบูรณ์และพร้อมใช้งานในวงกว้าง เทคโนโลยี 5G กลายเป็นมาตรฐานพื้นฐานสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ แทบทุกระดับราคา ทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ขยายบทบาทมากกว่าแค่การช่วยประมวลผลภาพถ่าย โดยถูกนำมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบโดยรวม การพัฒนาระบบค้นหาอัจฉริยะ เช่น ฟีเจอร์ Circle to Search ที่พบใน Samsung Galaxy A56 5G และการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานผ่าน User Interface ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
ในด้านหน้าจอแสดงผล เทคโนโลยี AMOLED ที่ให้สีสันสดใสและประหยัดพลังงาน พร้อมอัตรารีเฟรชสูงระดับ 120Hz หรือมากกว่านั้น ซึ่งเคยเป็นจุดขายของรุ่นเรือธง ก็เริ่มพบเห็นได้ทั่วไปในสมาร์ทโฟนระดับกลาง เช่น POCO F7 Ultra ที่มาพร้อมจอ Flow AMOLED ความละเอียด 2K และรองรับ 120Hz เทคโนโลยีการชาร์จเร็วก็มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด หลายรุ่นรองรับการชาร์จที่ความเร็วสูงถึง 90W หรือ 120W ทำให้การรอคอยแบตเตอรี่เต็มเป็นเรื่องในอดีต บางรุ่นในกลุ่มเกมมิ่งอย่าง REDMAGIC 10 Pro อาจรองรับการชาร์จสูงถึง 100W และ POCO F7 Ultra รองรับ 120W HyperCharge นอกจากนี้ การเชื่อมต่อไร้สายยุคใหม่อย่าง Wi-Fi 7 ก็เริ่มมีการนำมาใช้งานในสมาร์ทโฟนระดับบนบางรุ่นแล้ว
สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ฟีเจอร์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเอกสิทธิ์ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม (เช่น AI ที่ซับซ้อน, อัตรารีเฟรชหน้าจอสูง, และการชาร์จที่รวดเร็วมาก) ได้แพร่กระจายลงมาสู่สมาร์ทโฟนระดับกลาง หรือแม้กระทั่งบางรุ่นในกลุ่มราคาประหยัดอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้ชัดจาก Samsung Galaxy A56 5G ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง ก็มาพร้อมฟีเจอร์ AI อย่าง “Circle to Search” หรือ POCO F7 Pro และ realme 14 Series ที่นำเสนอหน้าจอ 120Hz และการชาร์จเร็ว 90W ขึ้นไปในกลุ่มราคาระดับกลางถึงกลางบน ปรากฏการณ์นี้บ่งชี้ว่าคุณสมบัติที่เคยจำกัดอยู่ในโทรศัพท์ราคาสูงกว่า 30,000 บาท เริ่มมีให้เห็นในกลุ่มราคา 10,000-20,000 บาท นั่นหมายความว่าผู้บริโภคในปี 2025 สามารถคาดหวังประสบการณ์การใช้งานที่ซับซ้อนและทันสมัยมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องจ่ายในราคาสูงสุดเสมอไป “ความคุ้มค่า” จึงได้รับการยกระดับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นิยามความคุ้มค่าในการเลือกซื้อมือถือยอดนิยมปี 2025
คำว่า “คุ้มค่าที่สุด” ในการเลือกซื้อมือถือยอดนิยมปี 2025 ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การมองหารุ่นที่มีราคาถูกที่สุดเท่านั้น แต่เป็นการพิจารณาความสมดุลระหว่างปัจจัยหลายด้าน เพื่อให้ได้สมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในราคาที่สมเหตุสมผล ผู้ใช้งานในปัจจุบันมองหาสเปคที่จัดเต็มในราคาสุดคุ้ม และการปรับลดราคาของรุ่นต่างๆ ก็ทำให้ตัวเลือกบางรุ่นน่าสนใจยิ่งขึ้น ผู้ใช้บางรายถึงกับระบุว่าต้องการสมาร์ทโฟนที่ “คุ้มราคา” และ “ใช้ได้นานๆ”
นิยามความคุ้มค่าในปีนี้จึงครอบคลุมถึง:
ราคาต่อประสิทธิภาพ (Price-to-Performance): การได้รับหน่วยประมวลผลที่ทรงพลังเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน และการเล่นเกม โดยมีชิปเซ็ตที่หลากหลายตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูง เช่น Snapdragon ซีรีส์ 6, 7, และ 8 รวมถึง MediaTek Dimensity ซีรีส์ต่างๆ
ชุดคุณสมบัติ (Feature Set): การเข้าถึงคุณสมบัติที่ทันสมัย เช่น หน้าจอคุณภาพสูง (AMOLED, อัตรารีเฟรชสูง), ระบบกล้องที่มีประสิทธิภาพ (ความละเอียดสูง, ระบบกันสั่น OIS), แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานพร้อมระบบชาร์จเร็ว และการเชื่อมต่อที่จำเป็นครบครัน (5G)
คุณภาพงานประกอบและความทนทาน: สมาร์ทโฟนที่ถูกสร้างมาให้มีความทนทาน อาจมาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น (IP Rating) เช่น IP68 ใน POCO F7 Series และ vivo V50 หรือ IP69 ใน realme 14 Series และ OPPO A5 Pro
ประสบการณ์การใช้งานและการสนับสนุนซอฟต์แวร์: ซอฟต์แวร์ที่ลื่นไหล, ฟีเจอร์ AI ที่เป็นประโยชน์ และนโยบายการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่สมเหตุสมผล เช่น นโยบายการอัปเดต 6 ปีของ Samsung สำหรับ A-series หรือการอัปเกรด OS 3 เวอร์ชั่นสำหรับ CMF Phone 2 Pro
นิยามของ “ความคุ้มค่า” ในปี 2025 ได้พัฒนาไปสู่ความเป็นองค์รวมมากขึ้น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่สเปคดิบๆ แต่รวมถึงแพ็กเกจโดยรวมที่คำนึงถึงอายุการใช้งานที่ยาวนาน (ผ่านความทนทานและการอัปเดตซอฟต์แวร์) และการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานในชีวิตประจำวัน (ผ่านฟีเจอร์ AI) ผู้บริโภคค้นหาสมาร์ทโฟนที่สมดุลระหว่างราคาและคุณสมบัติ เช่น ความทนทานของ OPPO A5 Pro, การอัปเดตซอฟต์แวร์ระยะยาวของ Samsung Galaxy A16, หรือคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของ CMF Phone 2 Pro ที่สามารถปรับแต่งได้
10 สุดยอดมือถือยอดนิยมรุ่นใหม่ล่าสุดที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ปี 2025
การคัดเลือกสมาร์ทโฟนทั้ง 10 รุ่นนี้พิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งความใหม่ในปี 2025 (หรือเปิดตัวปลายปี 2024 และยังคงมีความเกี่ยวข้องสูง) การวางจำหน่ายในประเทศไทย และที่สำคัญที่สุดคือ “ความคุ้มค่า” โดยรวมในกลุ่มราคาต่างๆ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคในวงกว้าง แต่ละรุ่นที่เลือกมาล้วนมีจุดเด่นที่น่าสนใจและตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป
1. POCO F7 Pro
ภาพรวมความคุ้มค่า: POCO F7 Pro มอบประสิทธิภาพระดับเรือธงในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่ามาก ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 3 ทำให้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่ต้องการความแรงในการใช้งานและเล่นเกมโดยไม่ต้องจ่ายแพงเท่าสมาร์ทโฟนเรือธงแบรนด์อื่น
สเปคเด่น:
- จอแสดงผล: Flow AMOLED DotDisplay ความละเอียดระดับ 2K, อัตรารีเฟรช 120Hz
- ชิปประมวลผล: Snapdragon 8 Gen 3
- RAM/หน่วยความจำ: 12GB/256GB, 12GB/512GB
- กล้องหลัก: 50MP พร้อมระบบกันสั่น OIS
- แบตเตอรี่และการชาร์จ: 6000mAh, รองรับ 90W HyperCharge
- คุณสมบัติพิเศษ: กันน้ำกันฝุ่น IP68, รองรับ Wi-Fi 7
- ราคาโดยประมาณ: เริ่มต้น 15,990 บาท (12GB/256GB)
เจาะลึกจุดเด่น:
- ประสิทธิภาพระดับท็อป: ด้วยชิป Snapdragon 8 Gen 3 ทำให้ POCO F7 Pro สามารถจัดการกับแอปพลิเคชันและเกมที่ต้องการพลังประมวลผลสูงได้อย่างลื่นไหล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเกมเมอร์และผู้ใช้งานหนัก
- จอแสดงผลคุณภาพสูง: หน้าจอ Flow AMOLED ความละเอียด 2K และอัตรารีเฟรช 120Hz มอบประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยม สีสันสดใส คมชัด และการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลสบายตา
- แบตเตอรี่อึดและการชาร์จเร็ว: แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6000mAh เพียงพอต่อการใช้งานตลอดวัน และเทคโนโลยี 90W HyperCharge ช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่กลับได้อย่างรวดเร็ว
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เกมเมอร์, ผู้ที่ต้องการมือถือยอดนิยมประสิทธิภาพสูงในงบประมาณที่จำกัด, และผู้ที่ให้ความสำคัญกับจอแสดงผลและเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว
2. Samsung Galaxy A56 5G
ภาพรวมความคุ้มค่า: Samsung Galaxy A56 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่แข็งแกร่ง มาพร้อมฟีเจอร์ AI ที่น่าสนใจ “Awesome Intelligence” จอแสดงผล Super AMOLED คุณภาพสูง และที่สำคัญคือการันตีการอัปเดตซอฟต์แวร์ยาวนานถึง 6 ปี ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว
สเปคเด่น:
- จอแสดงผล: Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด FHD+, อัตรารีเฟรช 120Hz
- ชิปประมวลผล: Exynos 1580
- RAM/หน่วยความจำ: 8GB/128GB, 12GB/256GB
- กล้องหลัก: 50MP (OIS) + Ultrawide 12MP + Macro 5MP
- แบตเตอรี่และการชาร์จ: 5000mAh, รองรับชาร์จเร็ว 45W
- คุณสมบัติพิเศษ: ฟีเจอร์ AI Awesome Intelligence (เช่น Circle to Search, การลบวัตถุ), กันน้ำกันฝุ่น IP67, อัปเดต OS และความปลอดภัย 6 ปี
- ราคาโดยประมาณ: เริ่มต้น 13,999 บาท (8GB/128GB)
เจาะลึกจุดเด่น:
- ซอฟต์แวร์และการสนับสนุนระยะยาว: การการันตีอัปเดต OS และความปลอดภัยนานถึง 6 ปี ถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้ Galaxy A56 5G มีความคุ้มค่าในระยะยาวเหนือกว่าคู่แข่งหลายรายในระดับเดียวกัน
- ฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ: Awesome Intelligence นำเสนอฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น Circle to Search และเครื่องมือแก้ไขภาพถ่ายด้วย AI ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน
- จอแสดงผล Super AMOLED: หน้าจอคุณภาพสูงให้สีสันที่สวยงาม คมชัด และลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรช 120Hz เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและความบันเทิง
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: ผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้ยาวนาน, ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของแบรนด์และการอัปเดตซอฟต์แวร์, และต้องการฟีเจอร์ AI ที่เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
3. realme 14 Pro 5G
ภาพรวมความคุ้มค่า: realme 14 Pro 5G โดดเด่นในฐานะสมาร์ทโฟนที่เน้นการเล่นเกมและประสิทธิภาพ ด้วยหน้าจออัตรารีเฟรชสูง, ชิปประมวลผลที่ตอบสนองได้ดี, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่พร้อมการชาร์จเร็ว และมาตรฐานการกันน้ำระดับสูง IP69 ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นและทนทาน
สเปคเด่น:
- จอแสดงผล: หน้าจอโค้ง AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว, (คาดว่า 120Hz)
- ชิปประมวลผล: Dimensity 7300 Energy 5G
- RAM/หน่วยความจำ: 12GB/512GB
- กล้องหลัก: 50MP OIS Sony IMX882 พร้อม MagicGlow Triple Flash
- คุณสมบัติพิเศษ: กันน้ำกันฝุ่น IP69, IP68, และ IP66, ดีไซน์ตัวเครื่องเปลี่ยนสีได้
- ราคาโดยประมาณ: 14,999 บาท (12GB/512GB)
เจาะลึกจุดเด่น:
- ความทนทานสูง: มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP69, IP68 และ IP66 มอบความมั่นใจในการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งหาได้ยากในสมาร์ทโฟนระดับราคานี้
- กล้องถ่ายภาพบุคคล: กล้องหลัก Sony IMX882 พร้อม OIS และเทคโนโลยี MagicGlow Triple Flash เน้นการถ่ายภาพบุคคลให้สวยงามในทุกสภาพแสง
- ประสิทธิภาพที่สมดุล: ชิป Dimensity 7300 Energy 5G และ RAM ขนาดใหญ่ 12GB เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมระดับกลางถึงสูงได้อย่างราบรื่น
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: ผู้ที่ต้องการมือถือยอดนิยมที่มีความทนทานสูง, ชื่นชอบการถ่ายภาพบุคคล, และต้องการประสิทธิภาพที่เพียงพอสำหรับการเล่นเกมและความบันเทิง
4. Redmi Note 14 Pro 5G
ภาพรวมความคุ้มค่า: Redmi Note 14 Pro 5G สร้างความน่าสนใจด้วยกล้องความละเอียดสูงถึง 200MP, หน้าจอ AMOLED ที่สวยงาม, ชิปประมวลผล Dimensity 7300 Ultra และมาตรฐานกันน้ำ IP68 ทั้งหมดนี้มาในราคาที่แข่งขันได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้
ที่เน้นการถ่ายภาพและคุณสมบัติรอบด้าน
สเปคเด่น:
- จอแสดงผล: หน้าจอโค้ง AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว, ความละเอียด 1.5K (1080 x 2400), อัตรารีเฟรช 120Hz
- ชิปประมวลผล: MediaTek Dimensity 7300 Ultra
- RAM/หน่วยความจำ: 12GB/512GB (ยังมีรุ่น 8GB/256GB)
- กล้องหลัก: 200MP + 8MP (Ultra Wide) + 2MP (Depth)
- แบตเตอรี่และการชาร์จ: 5110mAh, รองรับชาร์จเร็ว 45W
- คุณสมบัติพิเศษ: กันน้ำกันฝุ่น IP68, Xiaomi Imaging Engine
- ราคาโดยประมาณ: 14,990 บาท
เจาะลึกจุดเด่น:
- กล้องความละเอียดสูง 200MP: จุดขายหลักของรุ่นนี้คือกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 200MP ที่มาพร้อมฮาร์ดแวร์ทรงพลังและ OIS ช่วยให้เก็บรายละเอียดภาพได้อย่างคมชัด แม้ในสภาพแสงน้อยหรือการซูมภาพ
- หน้าจอคุณภาพ: หน้าจอโค้ง AMOLED ความละเอียด 1.5K พร้อมอัตรารีเฟรช 120Hz ให้ประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยม สีสันสดใส และการแสดงผลที่ลื่นไหล
- ความทนทาน: มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานในชีวิตประจำวัน
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและต้องการกล้องความละเอียดสูง, ผู้ที่มองหามือถือยอดนิยมที่มีหน้าจอสวยงามและสเปคโดยรวมที่แข็งแกร่งในราคาที่คุ้มค่า
5. vivo V50
ภาพรวมความคุ้มค่า: vivo V50 โดดเด่นด้วยการเน้นคุณภาพกล้อง โดยเฉพาะการร่วมมือกับ ZEISS ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียม แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และการชาร์จเร็ว 90W ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพและต้องการสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่อง
สเปคเด่น:
- จอแสดงผล: AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว, ความละเอียด FHD+, อัตรารีเฟรช 120Hz
- ชิปประมวลผล: Snapdragon 7 Gen 3
- RAM/หน่วยความจำ: 8GB/256GB, 12GB/256GB, 12GB/512GB
- กล้องหลัก: ZEISS OIS 50MP + Ultrawide 50MP; กล้องหน้า ZEISS 50MP
- แบตเตอรี่และการชาร์จ: BlueVolt 6000mAh, รองรับชาร์จเร็ว 90W
- คุณสมบัติพิเศษ: กันน้ำกันฝุ่น IP68 & IP69, ดีไซน์ขอบโค้งเล็กน้อย 4 ด้าน
- ราคาโดยประมาณ: เริ่มต้น 14,999 บาท (8GB/256GB)
เจาะลึกจุดเด่น:
- ระบบกล้อง ZEISS: การร่วมพัฒนากับ ZEISS ทั้งกล้องหน้าและหลัง ทำให้ vivo V50 มีความโดดเด่นในเรื่องคุณภาพของภาพถ่าย ให้สีสันที่เป็นธรรมชาติและรายละเอียดที่คมชัด เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลและทิวทัศน์
- แบตเตอรี่และการชาร์จ: แบตเตอรี่ BlueVolt 6000mAh ให้พลังงานที่ยาวนาน และการชาร์จเร็ว 90W ช่วยลดเวลาในการรอคอยได้อย่างมาก
- ดีไซน์และความทนทาน: ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับสูง IP68 และ IP69
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: ผู้ที่ให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพเป็นหลัก, ต้องการมือถือยอดนิยมที่มีดีไซน์สวยงาม, แบตเตอรี่อึด, และการชาร์จที่รวดเร็ว
6. Samsung Galaxy A26 5G
ภาพรวมความคุ้มค่า: Samsung Galaxy A26 5G เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มราคาหมื่นต้นๆ นำเสนอประสบการณ์การใช้งาน Samsung ที่คุ้นเคย พร้อมการเชื่อมต่อ 5G, หน้าจอ Super AMOLED คุณภาพดี และกล้องที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เป็นรุ่นน้องเล็กที่ยังคงคุณสมบัติเด่นของซีรีส์ A ไว้อย่างครบครัน
สเปคเด่น:
- จอแสดงผล: Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด FHD+, อัตรารีเฟรช 120Hz
- ชิปประมวลผล: Exynos 1380
- RAM/หน่วยความจำ: 8GB/256GB
- กล้องหลัก: 50MP (OIS) + Ultrawide 8MP + Macro 2MP; กล้องหน้า 13MP
- แบตเตอรี่และการชาร์จ: 5000mAh, รองรับชาร์จเร็ว 25W
- คุณสมบัติพิเศษ: รองรับ 5G, Wi-Fi 5, Bluetooth 5.3
- ราคาโดยประมาณ: 9,999 บาท (8GB/256GB)
เจาะลึกจุดเด่น:
- หน้าจอ Super AMOLED: แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัดกว่าในซีรีส์ A แต่ยังคงได้หน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ที่ให้สีสันสดใสและคมชัด พร้อมอัตรารีเฟรช 120Hz
- กล้องหลัก 50MP พร้อม OIS: การมีระบบกันสั่น OIS ในกล้องหลักช่วยให้ถ่ายภาพได้นิ่งและคมชัดขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่คุ้มค่าในราคานี้
- ประสบการณ์ Samsung ในราคาเข้าถึงง่าย: ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ One UI ที่มีฟีเจอร์หลากหลายและความเสถียร พร้อมการสนับสนุนจากแบรนด์ Samsung
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: ผู้ที่มองหามือถือยอดนิยม Samsung 5G ในราคาที่ไม่สูงมาก, เน้นการใช้งานทั่วไป, จอแสดงผลสวยงาม, และกล้องที่มีคุณภาพดีในระดับหนึ่ง
7. POCO X7 Pro
ภาพรวมความคุ้มค่า: POCO X7 Pro มุ่งเน้นไปที่การมอบประสิทธิภาพที่ทรงพลังในกลุ่มราคาระดับกลางตอนล่าง ด้วยชิปประมวลผล Dimensity 8400-Ultra, RAM ขนาดใหญ่, และการชาร์จเร็ว 90W ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการความแรงในการเล่นเกมและใช้งานหนักโดยไม่ทำลายงบประมาณ
สเปคเด่น:
- จอแสดงผล: CrystalRes AMOLED 6.67 นิ้ว, 1.5K, 120Hz
- ชิปประมวลผล: Dimensity 8400-Ultra
- RAM/หน่วยความจำ: 12GB/256GB, 12GB/512GB
- กล้องหลัก: 50MP Sony IMX882 (OIS) + 8MP Ultrawide
- แบตเตอรี่และการชาร์จ: 6000mAh, รองรับไฮเปอร์ชาร์จ 90W
- คุณสมบัติพิเศษ: มาตรฐานกันน้ำ IP68, ฟีเจอร์ AI (AI Image Expansion, AI Film, AI Interpreter)
- ราคาโดยประมาณ: เริ่มต้น 11,990 บาท (12GB/256GB)
เจาะลึกจุดเด่น:
- ชิปประมวลผล Dimensity 8400-Ultra: ให้ประสิทธิภาพที่สูงมากในระดับราคานี้ สามารถรองรับเกมกราฟิกสูงและการทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างสบาย
- การชาร์จเร็ว 90W และแบตเตอรี่ 6000mAh: การผสมผสานระหว่างแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และการชาร์จที่รวดเร็วมาก ทำให้ใช้งานได้ยาวนานและไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างวัน
- ฟีเจอร์ AI ที่หลากหลาย: POCO X7 Pro มาพร้อมฟีเจอร์ AI ที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น AI Image Expansion และ AI Interpreter ช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้งานที่หลากหลายขึ้น
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เกมเมอร์, ผู้ใช้งานหนักที่ต้องการประสิทธิภาพสูง, และผู้ที่ให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่ที่อึดและการชาร์จที่รวดเร็วในมือถือยอดนิยมที่ราคาจับต้องได้
8. iPhone 15
ภาพรวมความคุ้มค่า: iPhone 15 แม้จะเป็นสมาร์ทโฟนที่มีราคาสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน แต่ด้วยราคาที่ปรับลดลงในปี 2025 ทำให้เป็นจุดเข้าสู่ระบบนิเวศ Apple ที่คุ้มค่า มาพร้อมชิป A16 Bionic ที่ทรงพลัง กล้องคุณภาพสูง และการสนับสนุนซอฟต์แวร์ระยะยาว ที่อาจยาวนานถึง 5-6 ปี ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
สเปคเด่น:
- จอแสดงผล: Super Retina XDR OLED ขนาด 6.1 นิ้ว, ความละเอียด 1179 x 2556 พิกเซล
- ชิปประมวลผล: Apple A16 Bionic
- RAM/หน่วยความจำ: 6GB/128GB, 6GB/256GB, 6GB/512GB
- กล้องหลัก: 48MP (OIS) + 12MP Ultrawide
- แบตเตอรี่และการชาร์จ: ประมาณ 3349mAh, รองรับชาร์จเร็ว 20W, MagSafe 15W
- คุณสมบัติพิเศษ: Dynamic Island, พอร์ต USB-C, กันน้ำกันฝุ่น IP68, Face ID
- ราคาโดยประมาณ: 24,900 บาท (6GB/128GB)
เจาะลึกจุดเด่น:
- ระบบนิเวศ Apple: การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple อื่นๆ อย่างไร้รอยต่อ เช่น AirPods, Apple Watch, Mac และ iPad
- การสนับสนุนซอฟต์แวร์ระยะยาว: iPhone มีประวัติการได้รับอัปเดต iOS ยาวนานกว่า 5-6 ปี ทำให้มีความคุ้มค่าในระยะยาว
- กล้องที่เชื่อถือได้: กล้องหลัก 48MP พร้อม OIS ให้ภาพถ่ายและวิดีโอคุณภาพสูงในทุกสภาพแสง
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ระบบนิเวศ Apple ในราคาที่เข้าถึงได้, ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความเสถียรของระบบและการสนับสนุนซอฟต์แวร์ระยะยาว, และผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและวิดีโอคุณภาพสูง
9. OPPO A5 Pro 5G
ภาพรวมความคุ้มค่า: OPPO A5 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่เน้นความทนทานเป็นพิเศษด้วยมาตรฐาน IP68/IP69 และการป้องกันการกระแทกเกรดทหาร มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh และหน้าจอ 120Hz ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ทนทานและใช้งานได้ยาวนานในชีวิตประจำวัน
สเปคเด่น:
- จอแสดงผล: IPS-LCD ขนาด 6.67 นิ้ว, ความละเอียด HD+, อัตรารีเฟรช 120Hz
- ชิปประมวลผล: MediaTek Dimensity 6300 (สำหรับรุ่น 5G)
- RAM/หน่วยความจำ: 6GB/128GB, 8GB/256GB (สำหรับรุ่น 5G)
- กล้องหลัก: 50MP + Depth 2MP
- แบตเตอรี่และการชาร์จ: 6000mAh, รองรับชาร์จเร็ว 45W
- คุณสมบัติพิเศษ: กันน้ำกันฝุ่น IP69 และ IP68, ป้องกันการกระแทกเกรดทหาร, AI LinkBoost 2.0
- ราคาโดยประมาณ: เริ่มต้น 7,999 บาท (6GB/128GB 5G)
เจาะลึกจุดเด่น:
- ความทนทานเป็นเลิศ: มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP69 และ IP68 รวมถึงการป้องกันการกระแทกเกรดทหาร ทำให้ OPPO A5 Pro 5G เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ทนทานที่สุดในกลุ่มราคานี้ เหมาะกับการใช้งานสมบุกสมบัน
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่: แบตเตอรี่ 6000mAh ให้พลังงานที่ยาวนานเหลือเฟือสำหรับการใช้งานตลอดวัน และรองรับการชาร์จเร็ว 45W
- หน้าจอ 120Hz: แม้จะเป็นจอ IPS-LCD ความละเอียด HD+ แต่การมีอัตรารีเฟรช 120Hz ช่วยให้การใช้งานทั่วไปและการเลื่อนหน้าจอลื่นไหลขึ้น
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: ผู้ที่ต้องการมือถือยอดนิยมที่มีความทนทานสูงเป็นพิเศษ, แบตเตอรี่อึด, และหน้าจอที่ลื่นไหลในราคาประหยัด เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟนในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบันหรือต้องการความอุ่นใจเรื่องความทนทาน
10. Samsung Galaxy A16 5G
ภาพรวมความคุ้มค่า: Samsung Galaxy A16 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่คุ้มค่าอย่างยิ่งจาก Samsung มาพร้อมการเชื่อมต่อ 5G, หน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่, กล้องหลัก 50MP และที่สำคัญคือการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ยาวนานถึง 6 ปี ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนราคาประหยัดแต่ยังคงได้รับประสบการณ์ที่ดีและใช้งานได้ยาวนาน
สเปคเด่น:
- จอแสดงผล: Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด Full HD+, อัตรารีเฟรช 90Hz
- ชิปประมวลผล: MediaTek Dimensity 6300
- RAM/หน่วยความจำ: 8GB/256GB
- กล้องหลัก: 50MP + Ultrawide 5MP + Macro 2MP
- แบตเตอรี่และการชาร์จ: 5000mAh, รองรับชาร์จเร็ว 25W
- คุณสมบัติพิเศษ: รองรับ 5G, อัปเดตซอฟต์แวร์นาน 6 ปี
- ราคาโดยประมาณ: 6,999 บาท
เจาะลึกจุดเด่น:
- การอัปเดตซอฟต์แวร์ยาวนาน: การการันตีอัปเดตนานถึง 6 ปี เป็นจุดขายที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มราคานี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องจะยังคงปลอดภัยและได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆ ไปอีกนาน
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่: การได้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ในราคานี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ให้ภาพที่สวยงามและคมชัด
- ความคุ้มค่าโดยรวม: ด้วยราคาที่ไม่ถึง 7,000 บาท แต่ได้ทั้ง 5G, จอสวย, กล้องดี, และการสนับสนุนระยะยาว ทำให้ Galaxy A16 5G เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่มองหามือถือสำรอง
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: ผู้ที่มองหามือถือยอดนิยม 5G ราคาประหยัดที่สุดจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ, ให้ความสำคัญกับการอัปเดตซอฟต์แวร์ระยะยาว, และต้องการหน้าจอขนาดใหญ่คุณภาพดีสำหรับการใช้งานทั่วไป
ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อมือถือยอดนิยมสุดคุ้มปี 2025
การเลือกซื้อมือถือยอดนิยมที่ “คุ้มค่า” ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยสำคัญหลายประการที่ควรพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจในปี 2025 นี้
การเลือกชิปประมวลผลให้เหมาะกับการใช้งาน
ชิปประมวลผล (SoC) เปรียบเสมือนสมองของสมาร์ทโฟน มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม ตั้งแต่การใช้งานทั่วไปจนถึงการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูง ในปี 2025 ตลาดมีชิปเซ็ตหลากหลายระดับให้เลือก เช่น Snapdragon 8 series (เช่น Snapdragon 8 Gen 3 ใน POCO F7 Pro หรือ Snapdragon 8 Elite ใน POCO F7 Ultra) สำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด, Snapdragon 7 series (เช่น Snapdragon 7s Gen 3 ใน Nothing Phone (3a) Pro หรือ Snapdragon 7 Gen 3 ใน vivo V50) และ MediaTek Dimensity ซีรีส์ระดับกลางถึงสูง (เช่น Dimensity 7300 Pro ใน CMF Phone 2 Pro หรือ Dimensity 8400-Ultra ใน POCO X7 Pro) สำหรับการใช้งานที่สมดุล และชิปเซ็ตระดับเริ่มต้นอื่นๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป
สิ่งที่น่าสนใจคือในปี 2025 นี้ ชิปประมวลผลระดับกลางหลายรุ่น เช่น Dimensity 7-series ระดับสูง หรือ Snapdragon 7 Gen 3 และ Snapdragon 6 Gen 4 ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงเพียงพอสำหรับการใช้งานส่วนใหญ่ของผู้บริโภค รวมถึงการเล่นเกมทั่วไปถึงระดับปานกลางได้อย่างราบรื่น ข้อมูลจากหลายแหล่งชี้ว่า realme 14 5G ที่ใช้ชิป Snapdragon 6 Gen 4 ก็ถูกวางตัวให้เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกม ขณะที่ vivo V50 (Snapdragon 7 Gen 3) และ Nothing Phone (3a) Pro (Snapdragon 7s Gen 3) ก็เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีความสามารถสูง
เทคโนโลยีกล้องที่ตอบโจทย์
คุณภาพกล้องยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อมือถือยอดนิยม ในปี 2025 การพิจารณาไม่ควรหยุดอยู่แค่จำนวนเมกะพิกเซล แต่ควรดูองค์ประกอบอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ขนาดเซ็นเซอร์, การมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล (OIS), คุณภาพของเลนส์เสริม (เช่น Ultrawide, Telephoto), ฟีเจอร์กล้อง AI และความสามารถในการถ่ายวิดีโอ สมาร์ทโฟนหลายรุ่นในปีนี้นำเสนอความละเอียดกล้องที่สูงมาก เช่น 108MP หรือแม้กระทั่ง 200MP ใน Redmi Note 14 Pro 5G และการมีเลนส์เฉพาะทางอย่าง Periscope หรือ Telephoto ที่มี Optical Zoom ก็เริ่มพบเห็นได้ในรุ่นกลางบางตัว เช่น CMF Phone 2 Pro ที่มี Telephoto 50MP หรือการร่วมมือกับแบรนด์เลนส์ชื่อดังอย่าง ZEISS ใน vivo V50
สิ่งที่กลายเป็นมาตรฐานที่คาดหวังได้สำหรับประสิทธิภาพกล้องที่ดี แม้ในสมาร์ทโฟนระดับกลาง คือระบบกันสั่น OIS ซึ่งช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายในที่แสงน้อยและความนิ่งของวิดีโอได้อย่างมาก สมาร์ทโฟนระดับกลางหลายรุ่นที่กล่าวถึง เช่น POCO F7 Pro, Samsung Galaxy A56 5G, Redmi Note 14 Pro 5G, และ vivo V50 ต่างก็ระบุว่ามี OIS
แบตเตอรี่และการชาร์จเร็ว
อายุการใช้งานแบตเตอรี่และความเร็วในการชาร์จเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานโดยตรง ในปี 2025 แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh กลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการใช้งานตลอดวัน และบางรุ่นให้มาถึง 6000mAh หรือมากกว่านั้น เช่น POCO F7 Pro, realme 14 5G, vivo V50, iQOO Z9x 5G, และ TECNO Pova 6 Pro 5G เทคโนโลยีการชาร์จเร็วก็พัฒนาไปมาก โดยมีความเร็วตั้งแต่ 45W, 67W, 90W ไปจนถึง 120W ในบางรุ่น
การชาร์จที่รวดเร็วมาก (65W ขึ้นไป) ไม่ได้เป็นคุณสมบัติเฉพาะของรุ่นพรีเมียมอีกต่อไป และช่วยลดความกังวลเรื่องแบตเตอรี่ได้อย่างมาก กลายเป็นจุดขายสำคัญด้านความคุ้มค่า สมาร์ทโฟนระดับกลางจำนวนมากในข้อมูลที่รวบรวมมานั้นรองรับการชาร์จ 45W ขึ้นไป (เช่น realme 14 5G, Redmi Note 14 5G, POCO X7) บางรุ่นถึงกับให้มา 90W หรือ 120W (POCO F7 Pro, vivo V50, POCO X7 Pro)
ฟีเจอร์ AI และความสำคัญ
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในสมาร์ทโฟนปี 2025 ไม่เพียงแต่ช่วยปรับแต่งภาพถ่ายให้สวยงาม (Camera scene optimization, AI Eraser) แต่ยังรวมถึงการสั่งงานด้วยเสียง, การปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ (AI Game Space ใน nubia Neo 3, GT Boost ใน realme 14), และอาจรวมถึงฟีเจอร์ Generative AI ใหม่ๆ ที่ช่วยสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ด้วย Samsung Galaxy A56 5G มาพร้อม Awesome Intelligence ที่มี Circle to Search และการลบวัตถุในภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการนำ AI มาใช้ในฟังก์ชันที่หลากหลาย
AI กำลังเปลี่ยนจากเครื่องมือเสริมที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง (เช่น AI ในกล้อง) ไปสู่เครื่องมือที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบได้โดยตรงและช่วยเพิ่มผลิตภาพหรือความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริง สิ่งนี้เพิ่มมิติใหม่ให้กับ “ความคุ้มค่า” ของสมาร์ทโฟน
การอัปเดตซอฟต์แวร์และความทนทาน
การสนับสนุนซอฟต์แวร์ระยะยาว ทั้งการอัปเดตระบบปฏิบัติการ (OS) และการอัปเดตความปลอดภัย เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่ออายุการใช้งานและความปลอดภัยของอุปกรณ์ แบรนด์ที่ให้การสนับสนุนที่ดี เช่น Samsung ที่การันตีอัปเดตนานถึง 6 ปีสำหรับ A-series หรือ CMF Phone 2 Pro ที่รับประกันการอัปเกรด OS 3 เวอร์ชั่น ย่อมมีความน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ ความทนทานทางกายภาพก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง เช่น มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น (IP67, IP68, IP69 เริ่มปรากฏบ่อยขึ้น) และการป้องกันหน้าจอ
อายุการใช้งานของการอัปเดตซอฟต์แวร์กำลังกลายเป็นปัจจัยสร้างความแตกต่างที่สำคัญในตลาด Android โดยเฉพาะสำหรับโทรศัพท์ระดับกลาง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณค่าและความปลอดภัยในระยะยาว ในอดีต การอัปเดตโทรศัพท์ Android โดยเฉพาะรุ่นที่ไม่ใช่เรือธง มักจะไม่สอดคล้องกัน คำมั่นสัญญาของ Samsung ในการอัปเดตโทรศัพท์ระดับกลางนานถึง 6 ปีได้สร้างมาตรฐานใหม่ การสนับสนุนที่ยาวนานขึ้นนี้หมายความว่าโทรศัพท์จะยังคงปลอดภัยและได้รับคุณสมบัติใหม่ๆ เป็นเวลานานขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มอายุการใช้งานและคุณค่าของมัน
บทสรุปและคำแนะนำเพิ่มเติม
สรุปภาพรวมมือถือยอดนิยมที่คุ้มค่าที่สุดในปี 2025
ปี 2025 นำเสนอตัวเลือกมือถือยอดนิยมที่คุ้มค่าอย่างยิ่งในทุกระดับราคา คุณสมบัติที่เคยจำกัดอยู่เฉพาะในรุ่นเรือธงได้ถูกนำมาใส่ในรุ่นที่เข้าถึงง่ายขึ้น ทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายแพง สมาร์ทโฟน 10 รุ่นที่คัดเลือกมาในรายงานนี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายและความก้าวหน้าของตลาด ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นที่เน้นความคุ้มค่าสูงสุด ไปจนถึงรุ่นกลางที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ และรุ่น “ฆาตเรือธงราคาประหยัด” ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในราคาที่จับต้องได้
คำแนะนำในการเลือกซื้อให้ตรงกับความต้องการและงบประมาณส่วนบุคคล
สมาร์ทโฟนที่ “คุ้มค่าที่สุด” นั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลและขึ้นอยู่กับลำดับความสำคัญและงบประมาณของแต่ละคนอย่างมาก บทบาทของบทความนี้คือการช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเองได้ โทรศัพท์ที่คุ้มค่ามากสำหรับเกมเมอร์อาจไม่ใช่สำหรับคนที่สนใจแค่แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน ความหลากหลายของโทรศัพท์ “ที่คุ้มค่า” หมายความว่าน่าจะมีตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับความต้องการส่วนใหญ่
สำหรับเกมเมอร์: มองหารุ่นที่มีหน้าจออัตรารีเฟรชสูง, ชิปประมวลผลที่ทรงพลัง (เช่น POCO F7 Pro, POCO X7 Pro, realme 14 Pro 5G), และระบบระบายความร้อนที่ดี
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ: ให้ความสำคัญกับสเปคกล้อง (OIS, คุณภาพเซ็นเซอร์, ความหลากหลายของเลนส์ – เช่น vivo V50, Redmi Note 14 Pro 5G, Samsung Galaxy A56 5G)
สำหรับผู้ใช้งานตลอดวัน: เน้นความจุแบตเตอรี่และการชาร์จเร็ว (เช่น realme 14 5G, POCO F7 Pro, vivo V50)
สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด: พิจารณารุ่นที่มีความสามารถสูงในราคาต่ำกว่า 10,000 บาท (เช่น Samsung Galaxy A16 5G, OPPO A5 Pro 5G, CMF Phone 2 Pro)
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานระยะยาว: ให้ความสำคัญกับนโยบายการอัปเดตซอฟต์แวร์และความทนทานของตัวเครื่อง (เช่น Samsung A-series, สมาร์ทโฟนที่มีมาตรฐาน IP Rating สูง)
นอกจากการพิจารณาคุณสมบัติแล้ว ขอแนะนำให้ตรวจสอบโปรโมชั่นล่าสุดและเปรียบเทียบราคาจากร้านค้าต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
ดูบทความอื่น : กดที่นี่