ทดลองใช้ cloud computing vultr ด้วยเครดิตฟรี 300$

cloud computing vultr
กดเพื่อรับเครดิตการใช้งาน300$ฟรี

บทนำสู่ Cloud Computing และ Vultr

Cloud Computing คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากรคอมพิวเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนในฮาร์ดแวร์ราคาแพง ทำให้ธุรกิจและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้อย่างยืดหยุ่น ประหยัดต้นทุน และปรับขนาดได้ตามความต้องการ

Vultr เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบอัตโนมัติระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนในการปรับใช้ระบบสำหรับนักพัฒนาและธุรกิจต่างๆ ปัจจุบัน Vultr อ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์คอมพิวติ้งเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมุ่งเน้นการให้บริการเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ SSD ประสิทธิภาพสูงในราคาที่แข่งขันได้

บริษัทได้สร้างสมดุลระหว่างความคุ้มค่ากับประสิทธิภาพ ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทางเลือกอื่นนอกเหนือจากผู้ให้บริการรายใหญ่ (hyperscalers) ที่อาจมีราคาสูงหรือซับซ้อนเกินไป

ทำไมต้อง Vultr? จุดเด่นเหนือคู่แข่ง

Vultr มีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้แตกต่างจากผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่นๆ:

1. ศูนย์ข้อมูลทั่วโลก

Vultr มีศูนย์ข้อมูล 32 แห่งกระจายอยู่ทั่วโลก ครอบคลุม 5 ทวีป ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเลือกตำแหน่งที่ใกล้กับผู้ใช้ของคุณมากที่สุด ลดความหน่วง (latency) และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชัน

2. ประสิทธิภาพสูง ราคาคุ้มค่า

Vultr นำเสนอบริการที่ขับเคลื่อนด้วย CPU AMD และ Intel รุ่นล่าสุด พร้อม NVMe SSDs ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงในราคาที่แข่งขันได้ โดยเฉพาะแผน High Frequency Compute ที่ได้รับการยกย่องจากผู้ใช้ว่าช่วยปรับปรุงความเร็วได้อย่างมาก

3. ความง่ายในการใช้งาน

แผงควบคุมของ Vultr ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย สามารถเข้าถึงได้ผ่านเดสก์ท็อป แท็บเล็ต และมือถือ ทำให้การจัดการเซิร์ฟเวอร์เป็นเรื่องง่าย แม้สำหรับผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคมากนัก

4. ความยืดหยุ่นสูง

Vultr มีตัวเลือกระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย ทั้ง Linux, BSD และ Windows รวมถึงความสามารถในการอัปโหลด Custom ISOs ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญสำหรับผู้ใช้ขั้นสูง

5. API และ CLI ที่ทรงพลัง

สำหรับนักพัฒนาและผู้ดูแลระบบ Vultr มี API และ Command Line Interface (CLI) ที่ทรงพลังสำหรับการทำงานอัตโนมัติและการจัดการทรัพยากรผ่านโปรแกรม

6. Marketplace ที่หลากหลาย

Vultr Marketplace นำเสนอแอปพลิเคชันและ development stacks ที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าหลากหลายรูปแบบสำหรับการปรับใช้ในคลิกเดียว เช่น WordPress, cPanel, Docker, LAMP และอื่นๆ อีกมากมาย

ประเภทของ Cloud Compute Instances บน Vultr

Vultr นำเสนอ Instance หลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้:

1. Cloud Compute (Regular Performance)

เป็น Virtual Machines (VMs) ที่ใช้งานง่าย ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับงานทั่วไปหลายประเภท เริ่มต้นที่ราคาต่ำมาก (เช่น 2.50 USD ต่อเดือน) เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็ก งานพัฒนาและทดสอบ

2. Optimized Cloud Compute

VM ที่ทรงพลังกว่า พร้อมทรัพยากรแบบเฉพาะ (ไม่มี “noisy neighbors” หรือผู้ใช้รายอื่นมาแย่งทรัพยากร) และ NVMe SSD ในตัว ขับเคลื่อนด้วย CPU AMD และ Intel รุ่นล่าสุด แบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ:

  • General Purpose: สมดุลระหว่าง CPU, RAM และ NVMe เหมาะสำหรับเว็บเซิร์ฟเวอร์, e-commerce, API servers เป็นต้น
  • CPU Optimized: พลัง CPU มากกว่าเมื่อเทียบกับ RAM และ NVMe เหมาะสำหรับงานที่เน้น CPU เช่น การประมวลผลวิดีโอ หรือเครือข่ายโฆษณา
  • Memory Optimized: RAM สูงกว่าเมื่อเทียบกับ CPU และ NVMe เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีทราฟฟิกสูง หรือฐานข้อมูลขนาดใหญ่
  • Storage Optimized: พื้นที่จัดเก็บ NVMe ขนาดใหญ่ พร้อม CPU/RAM ทั่วไป สำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในเครื่องจำนวนมาก

3. High Frequency Compute

Instance ที่เน้นความเร็วของ CPU สูง ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างมาก เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการการประมวลผลรวดเร็ว

4. Bare Metal

เซิร์ฟเวอร์เฉพาะทางแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ไม่มีชั้น virtualization ทำให้เข้าถึงฮาร์ดแวร์ได้โดยตรงและให้ประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับบริษัทที่จัดการข้อมูลปริมาณมากหรือผู้ให้บริการรายย่อย

5. Cloud GPU

VM พร้อม GPU จาก AMD และ NVIDIA สำหรับงาน AI/ML และ HPC (High Performance Computing) ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับงานที่ต้องการประมวลผลกราฟิกหรือการประมวลผลแบบขนาน

เริ่มต้นใช้งาน Vultr ด้วยเครดิตฟรี 300$

การเริ่มต้นใช้งาน Vultr เป็นเรื่องง่าย และคุณสามารถทดลองใช้บริการด้วยเครดิตฟรีมูลค่า 300$ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจมาก โดยมีเงื่อนไขดังนี้:

  1. ผู้ใช้ที่คุณแนะนำจะได้รับเครดิต 300$ เพื่อทดลองใช้แพลตฟอร์ม
  2. บัญชีซ้ำไม่มีสิทธิ์ได้รับโปรโมชัน
  3. ลูกค้าที่ได้รับการแนะนำต้องเชื่อมโต่บัตรเครดิตที่ถูกต้องหรือวิธีการชำระเงินผ่าน PayPal เพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับเครดิต 300$
  4. เครดิต 300$ ที่ไม่ได้ใช้จะหมดอายุหลังจาก 30 วัน

วิธีการสมัครและรับเครดิตฟรี:

  1. เข้าไปที่ https://www.vultr.com/?ref=9642243-9J
  2. คลิกที่ปุ่มลงทะเบียน
  3. กรอกข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นและตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายาก
  4. ยืนยันวิธีการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือ PayPal
  5. เมื่อลงทะเบียนเสร็จสิ้น คุณจะได้รับเครดิต 300$ ในบัญชีของคุณ
  6. เครดิตนี้สามารถใช้ได้กับทุกบริการของ Vultr แต่มีอายุการใช้งานเพียง 30 วัน

เครดิต 300$ นี้เพียงพอสำหรับการทดลองใช้บริการต่างๆ ของ Vultr ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Cloud Compute, Optimized Cloud Compute, Block Storage หรือบริการอื่นๆ

ทดลองใช้ Cloud Computing Vultr ด้วยเครดิตฟรี 300$

ข้อเสนอพิเศษ

300$

เครดิตฟรีสำหรับผู้ใช้ใหม่

ปรับใช้เซิร์ฟเวอร์ได้ภายใน 60 วินาที

ใช้เครดิตได้นาน 30 วัน

32 ศูนย์ข้อมูลทั่วโลก

ประสิทธิภาพสูง ราคาคุ้มค่า

Vultr นำเสนอบริการที่ขับเคลื่อนด้วย CPU AMD และ Intel รุ่นล่าสุด พร้อม NVMe SSDs ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงในราคาที่แข่งขันได้ เริ่มต้นเพียง 2.50$ ต่อเดือน

ประเภท Instance ที่หลากหลาย

  • Cloud Compute: VM ราคาประหยัด เหมาะสำหรับงานทั่วไป
  • Optimized Cloud Compute: VM ประสิทธิภาพสูง สำหรับงานที่ต้องการทรัพยากรมาก
  • High Frequency Compute: เน้นความเร็ว CPU สูง
  • Bare Metal: เซิร์ฟเวอร์เฉพาะทางประสิทธิภาพสูงสุด

ง่ายต่อการใช้งาน

แผงควบคุมที่ใช้งานง่าย Marketplace ที่หลากหลาย และการปรับใช้แอปพลิเคชันในคลิกเดียว เช่น WordPress, Docker, LAMP stack ช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว

กรณีการใช้งานที่เหมาะสม

🌐
เว็บโฮสติ้ง
🧪
การพัฒนาและทดสอบ
🎮
เซิร์ฟเวอร์เกม
🔒
เซิร์ฟเวอร์ VPN
รับเครดิตฟรี 300$ ทันที

ผู้ใช้ต้องเชื่อมโยงบัตรเครดิตหรือ PayPal ที่ถูกต้อง เครดิตที่ไม่ได้ใช้จะหมดอายุหลังจาก 30 วัน

การสร้าง Cloud Compute Instance แรกของคุณ

หลังจากลงทะเบียนและได้รับเครดิตฟรีแล้ว คุณสามารถสร้าง Cloud Compute Instance แรกของคุณได้อย่างง่ายดาย ด้วยขั้นตอนดังนี้:

1. เข้าสู่แผงควบคุม Vultr

  • เข้าสู่ระบบที่แดชบอร์ด Vultr
  • ทำความคุ้นเคยกับส่วนต่างๆ เช่น “Products”, “Deploy New Server” (ปุ่ม +)

2. เลือกประเภทเซิร์ฟเวอร์

  • คลิกที่ “Deploy New Server” หรือปุ่ม +
  • เลือก “Cloud Compute” หรือ “Optimized Cloud Compute” ตามความต้องการของคุณ

3. เลือกตำแหน่งศูนย์ข้อมูล

  • เลือกศูนย์ข้อมูลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ใกล้กับผู้ใช้ของคุณหรือตามความต้องการเฉพาะ
  • Vultr มีศูนย์ข้อมูล 32 แห่งทั่วโลก ให้คุณเลือกตามความเหมาะสม

4. เลือกระบบปฏิบัติการ

  • เลือกจากรายการระบบปฏิบัติการที่มีให้ (Linux, BSD, Windows) หรืออัปโหลด Custom ISO
  • สำหรับผู้เริ่มต้น แนะนำให้เลือก Ubuntu 22.04 เนื่องจากใช้งานง่ายและมีชุมชนสนับสนุนขนาดใหญ่

5. เลือกขนาด Instance

  • เลือกแผนตาม CPU, RAM และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ต้องการ
  • สำหรับการทดลองใช้งาน แผนเริ่มต้นที่ 5$ ต่อเดือนก็เพียงพอสำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กหรือการทดสอบ

6. ตั้งค่าคุณสมบัติเพิ่มเติม

  • SSH Keys: แนะนำให้เพิ่ม public SSH key ของคุณเพื่อความปลอดภัย
  • Backups: กำหนดค่าการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
  • DDoS Protection: เปิดใช้งานการป้องกัน DDoS ของ Vultr (มีค่าบริการรายเดือนเพิ่มเติม)
  • Hostname และ Label: ตั้งชื่อโฮสต์และป้ายกำกับที่สื่อความหมายสำหรับเซิร์ฟเวอร์ของคุณ

7. ปรับใช้ Instance

  • ตรวจสอบการเลือกทั้งหมดแล้วคลิก “Deploy Now”
  • รอให้เซิร์ฟเวอร์จัดเตรียม (โดยปกติใช้เวลาไม่กี่นาที)
  • ข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบ (หากใช้รหัสผ่าน) จะได้รับหลังจากนี้

8. เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของคุณ

  • การใช้ Vultr Console: เข้าถึง SSH session ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้โดยตรงจากแผงควบคุม Vultr
  • การเชื่อมต่อผ่าน SSH:
    • สำหรับ Windows: ใช้ PuTTY หรือ OpenSSH ใน PowerShell/WSL
    • สำหรับ Mac/Linux: ใช้ Terminal โดยพิมพ์ ssh root@SERVER_IP_ADDRESS

9. การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เบื้องต้น

  • อัปเดตระบบ: sudo apt update && sudo apt upgrade -y
  • สร้างผู้ใช้ใหม่: sudo adduser newusername
  • ให้สิทธิ์ sudo: sudo usermod -aG sudo newusername
  • ตั้งค่าไฟร์วอลล์พื้นฐาน (UFW):

     
    sudo ufw allow OpenSSH
    sudo ufw default deny incoming
    sudo ufw default allow outgoing
    sudo ufw enable

แนวทางการใช้งาน Vultr อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้งาน Vultr ด้วยเครดิตฟรี 300$ มีแนวทางการใช้งานดังนี้:

1. วางแผนการใช้ทรัพยากร

  • เริ่มต้นด้วย Instance ขนาดเล็กและค่อยๆ ปรับขนาดเมื่อจำเป็น
  • ใช้ Block Storage สำหรับข้อมูลที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติม
  • ติดตามการใช้ทรัพยากรอย่างสม่ำเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

2. ใช้ประโยชน์จาก Marketplace

  • ประหยัดเวลาด้วยการใช้แอปพลิเคชันติดตั้งในคลิกเดียว เช่น WordPress, Docker, LAMP stack
  • เลือกแอปพลิเคชันที่เหมาะกับความต้องการของคุณจาก Vultr Marketplace

3. ตั้งค่าการสำรองข้อมูล

  • กำหนดค่าการสำรองข้อมูลอัตโนมัติเพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูล
  • ทดสอบการกู้คืนข้อมูลสำรองเป็นระยะเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถกู้คืนได้เมื่อจำเป็น

4. ใช้ API และ CLI สำหรับการทำงานอัตโนมัติ

  • เรียนรู้การใช้งาน Vultr API และ CLI เพื่อการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
  • สร้างสคริปต์อัตโนมัติสำหรับงานที่ทำซ้ำๆ เช่น การสร้าง Instance, การสำรองข้อมูล

5. ใช้ Virtual Private Cloud (VPC)

  • สร้างเครือข่ายส่วนตัวสำหรับการสื่อสารที่ปลอดภัยระหว่าง Instance
  • ทราฟฟิก VPC ไม่มีการเรียกเก็บเงิน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งข้อมูลระหว่าง Instance

6. ติดตามการใช้เครดิต

  • ตรวจสอบการใช้เครดิตอย่างสม่ำเสมอผ่านแผงควบคุม
  • วางแผนการใช้เครดิตให้เหมาะสมภายในระยะเวลา 30 วัน

กรณีการใช้งานที่เหมาะสม

Vultr Cloud Compute เหมาะสำหรับหลากหลายกรณีการใช้งาน ต่อไปนี้คือกรณีการใช้งานที่เหมาะสมที่คุณสามารถทดลองด้วยเครดิตฟรี 300$:

1. เว็บโฮสติ้ง

  • โฮสต์บล็อกส่วนตัว เว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็ก แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
  • ใช้แอปพลิเคชันติดตั้งในคลิกเดียว เช่น WordPress, WooCommerce, Magento

2. สภาพแวดล้อมการพัฒนาและทดสอบ

  • ตั้งค่าสภาพแวดล้อมการพัฒนา, CI/CD pipelines และเซิร์ฟเวอร์ staging
  • ทดสอบซอฟต์แวร์ใหม่หรือพัฒนาแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการต่างๆ

3. เซิร์ฟเวอร์เกม

  • ใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของ Vultr สำหรับการโฮสต์เซิร์ฟเวอร์เกม เช่น Minecraft
  • ความหน่วงต่ำเนื่องจากมีศูนย์ข้อมูลทั่วโลกเป็นประโยชน์สำหรับผู้เล่นทั่วโลก

4. เซิร์ฟเวอร์ VPN

  • ตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ OpenVPN เพื่อการเข้าถึงที่ปลอดภัยและการท่องเว็บแบบเป็นส่วนตัว
  • เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ในประเทศอื่นๆ เพื่อเข้าถึงเนื้อหาที่จำกัดทางภูมิศาสตร์

5. แอปพลิเคชันที่ใช้ข้อมูลจำนวนมาก (ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง)

  • รันฐานข้อมูล (MySQL, PostgreSQL) สำหรับแอปพลิเคชันของคุณ
  • ใช้ Optimized Cloud Compute สำหรับประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

6. สถาปัตยกรรมไมโครเซอร์วิส

  • ทดลองใช้งานสถาปัตยกรรมไมโครเซอร์วิส
  • ใช้ Vultr Kubernetes Engine (VKE) สำหรับการจัดการคอนเทนเนอร์

7. การกู้คืนจากภัยพิบัติ

  • ตั้งค่าแผนการกู้คืนจากภัยพิบัติโดยใช้ Instance ในหลายภูมิภาค
  • ทดสอบการสำรองและกู้คืนข้อมูลระหว่างศูนย์ข้อมูลต่างๆ

การรักษาความปลอดภัยสำหรับ Vultr Instance

การรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานบริการคลาวด์ ต่อไปนี้เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาความปลอดภัย Vultr Instance ของคุณ:

1. ใช้ SSH Keys แทนรหัสผ่าน

  • SSH keys มีความปลอดภัยสูงกว่ารหัสผ่านอย่างมาก
  • สร้าง SSH key pair และใช้สำหรับการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์

2. ปิดใช้งานการเข้าสู่ระบบด้วย root และการยืนยันตัวตนด้วยรหัสผ่าน

  • แก้ไขไฟล์ /etc/ssh/sshd_config:
    • ตั้งค่า PermitRootLogin no
    • ตั้งค่า PasswordAuthentication no
  • รีสตาร์ท SSH service: sudo systemctl restart sshd

3. กำหนดค่า Firewall

  • ใช้ Vultr’s platform Firewall (กรองทราฟฟิกก่อน
    • ถึง Instance)
    • ติดตั้ง host-based firewalls เช่น UFW (สำหรับ Ubuntu/Debian) หรือ firewalld (สำหรับ RHEL/CentOS)
    • ใช้หลักการ least privilege: เปิดเฉพาะพอร์ตที่จำเป็นเท่านั้น

    4. ใช้เครื่องมือเช่น Fail2Ban

    • ติดตั้งและกำหนดค่า Fail2Ban เพื่อตรวจสอบ logs และแบน IP ที่แสดงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายโดยอัตโนมัติ
    • ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ brute force ต่อบริการต่างๆ เช่น SSH

    5. ใช้ประโยชน์จากการป้องกัน DDoS ของ Vultr

    • Vultr มีระบบลดผลกระทบ DDoS แบบเนทีฟที่ตรวจสอบทราฟฟิกและส่งต่อกิจกรรมที่เป็นอันตราย
    • สามารถเพิ่มความสามารถในการลดผลกระทบ 10Gbps ต่อ Instance ในราคา 10$ ต่อเดือน
    • ป้องกันการโจมตี Layer 3 และ Layer 4 (TCP & UDP)

    6. อัปเดตและแพตช์อย่างสม่ำเสมอ

    • อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งทั้งหมดให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
    • ตั้งค่าการอัปเดตอัตโนมัติสำหรับการแพตช์ด้านความปลอดภัย

    7. กลยุทธ์การสำรองข้อมูล

    • ใช้คุณสมบัติการสำรองข้อมูลอัตโนมัติของ Vultr
    • พิจารณาการสำรองข้อมูลนอกเซิร์ฟเวอร์สำหรับข้อมูลที่สำคัญ
    • ทดสอบการกู้คืนข้อมูลสำรองเป็นระยะ

ข้อดีข้อเสียของ Vultr เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

การเปรียบเทียบ Vultr กับผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่นจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า Vultr เหมาะสมกับความต้องการของคุณหรือไม่:

ข้อดีของ Vultr

  1. ราคาที่แข่งขันได้: Vultr มีราคาที่แข่งขันได้ โดยเฉพาะสำหรับแผนระดับเริ่มต้นและ High Frequency Compute เริ่มต้นที่เพียง 2.50$ ต่อเดือน

  2. ประสิทธิภาพที่ดี: ผู้ใช้รายงานว่า Vultr มีประสิทธิภาพที่ดี โดยเฉพาะ High Frequency Compute ที่ช่วยปรับปรุงความเร็วได้อย่างมาก

  3. ศูนย์ข้อมูลทั่วโลก: มีศูนย์ข้อมูล 32 แห่งทั่วโลก ช่วยให้คุณสามารถเลือกตำแหน่งที่ใกล้กับผู้ใช้ของคุณมากที่สุด

  4. แผงควบคุมที่ใช้งานง่าย: แผงควบคุมของ Vultr ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย แม้สำหรับผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคมากนัก

  5. API ที่แข็งแกร่ง: มี API และ CLI ที่ทรงพลังสำหรับการทำงานอัตโนมัติและการจัดการทรัพยากรผ่านโปรแกรม

  6. ตัวเลือกระบบปฏิบัติการที่ยืดหยุ่น: มีตัวเลือกระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย และสามารถอัปโหลด Custom ISOs ได้

ข้อเสียของ Vultr

  1. เป็นบริการแบบ unmanaged: Vultr เป็นบริการแบบ unmanaged ที่ต้องการความเชี่ยวชาญทางเทคนิค ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบในการบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ ความปลอดภัย และการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง

  2. การสนับสนุนลูกค้าไม่สม่ำเสมอ: การสนับสนุนลูกค้าอาจไม่สอดคล้องกันหรือมีข้อจำกัดสำหรับปัญหาระดับแอปพลิเคชัน บางรายพบว่าได้รับการสนับสนุนที่รวดเร็ว ในขณะที่บางรายพบว่าช้าหรือไม่เป็นประโยชน์

  3. นโยบายไม่คืนเงินที่เข้มงวด: Vultr มีนโยบายไม่คืนเงินที่เข้มงวด โดยทั่วไปจะไม่คืนเงินสำหรับค่าบริการที่ชำระล่วงหน้าหากมีการยกเลิกบริการ

  4. มีรายงานปัญหาการเรียกเก็บเงิน: มีผู้ใช้บางรายรายงานปัญหาความไม่โปร่งใสในการเรียกเก็บเงินหรือปัญหาการเรียกเก็บเงิน

เปรียบเทียบกับคู่แข่งหลัก

Vultr vs DigitalOcean

  • ราคา: Vultr มักมีราคาที่แข่งขันได้มากกว่า โดยเฉพาะสำหรับแผนระดับเริ่มต้น
  • เอกสารประกอบ: DigitalOcean มีเอกสารประกอบที่ดีกว่าและชุมชนที่แข็งแกร่งกว่า
  • การใช้งาน: ทั้งสองมีแผงควบคุมที่ใช้งานง่าย แต่ DigitalOcean อาจเป็นมิตรต่อผู้เริ่มต้นมากกว่า

Vultr vs Linode (Akamai)

  • ความน่าเชื่อถือ: Linode ได้รับการยกย่องในด้านความน่าเชื่อถือสูง
  • การสนับสนุน: Linode มักได้รับการยกย่องว่ามีการสนับสนุนที่ดีกว่า
  • ราคา: Vultr อาจมีราคาที่แข่งขันได้มากกว่าในบางแผน

Vultr vs Hetzner

  • ราคา: Hetzner เป็นที่รู้จักในด้านราคาที่แข่งขันได้สูงมาก โดยเฉพาะในยุโรป
  • ประสิทธิภาพ: ทั้งสองให้ประสิทธิภาพที่ดี แต่ Vultr มีศูนย์ข้อมูลกระจายทั่วโลกมากกว่า
  • การสนับสนุน: ทั้งสองมีการสนับสนุนที่ไม่สม่ำเสมอ

สรุป: เหตุผลที่ควรทดลองใช้ Vultr วันนี้

Vultr เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนา ธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง (SMBs) และผู้ใช้ที่มีความรู้ทางเทคนิค ด้วยข้อเสนอเครดิตฟรี 300$ ทำให้เป็นโอกาสที่ดีในการทดลองใช้บริการโดยไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน

เหตุผลหลักที่ควรทดลองใช้ Vultr:

  1. ประสิทธิภาพสูงในราคาที่แข่งขันได้: Vultr นำเสนอประสิทธิภาพที่ดีในราคาที่สมเหตุสมผล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทางเลือกที่คุ้มค่า

  2. ความยืดหยุ่นและการปรับขนาดได้: ตั้งแต่ Instance ขนาดเล็กไปจนถึง Optimized Compute และ Bare Metal ทำให้คุณสามารถเติบโตได้ตามความต้องการ

  3. ศูนย์ข้อมูลทั่วโลก: ด้วยศูนย์ข้อมูล 32 แห่งทั่วโลก คุณสามารถเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้ของคุณ

  4. ความง่ายในการใช้งาน: แผงควบคุมที่ใช้งานง่ายและ Marketplace ที่หลากหลายช่วยให้การปรับใช้เซิร์ฟเวอร์และแอปพลิเคชันเป็นเรื่องง่าย

  5. เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา: API และ CLI ที่ทรงพลังช่วยให้นักพัฒนาสามารถทำงานอัตโนมัติและจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  6. เครดิตฟรี 300$: ข้อเสนอเครดิตฟรีทำให้คุณสามารถทดลองใช้บริการต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนโดยไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนาที่ต้องการทดสอบแนวคิดใหม่ เจ้าของธุรกิจที่ต้องการโฮสต์เว็บไซต์ หรือผู้ใช้ที่ต้องการเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวสำหรับโครงการส่วนตัว Vultr มีโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับคุณ ด้วยเครดิตฟรี 300$ คุณสามารถทดลองใช้ Cloud Computing ระดับโลกและค้นพบว่า Vultr สามารถช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางเทคโนโลยีของคุณได้อย่างไร

อย่าพลาดโอกาสในการทดลองใช้ Vultr วันนี้ เยี่ยมชม https://www.vultr.com/?ref=9642243-9J และรับเครดิตฟรี 300$ ของคุณเพื่อเริ่มต้นการเดินทางสู่ Cloud Computing!

ดูบทความอื่น : กดที่นี่